ศรีสะเกษซัดแก๊งล่าชื่อถวายฎีกาให้ “แม้ว” ไร้สติ ชี้คนทำผิด กม.ไม่ได้รับโทษ ชาติอยู่ไม่ได้

ศรีสะเกษ – ปธ.ประชาคมกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซัดกลุ่มล่ารายชื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ “นช.แม้ว” สติไม่สมประกอบ หรือเป็นบ้าไร้สติไปแล้ว ชี้ บ้านเมืองมีขื่อมีแป หากทำผิดกฎหมายไม่ได้รับโทษแล้วประเทศชาติจะอยู่ได้อย่างไร ขณะประธาน “ศปศ.” แนะ “ทักษิณ” กลับมาติดคุกอยู่นิ่ง 2-3 ปี และหยุดโฟนอินสร้างความแตกแยกภายในชาติอย่างที่เป็นอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดศรีสะเกษ ว่า จากกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงได้ประกาศล่ารายชื่อประชาชน 1 ล้านรายชื่อ เพื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษชายหนีคดีอาญาแผ่นดิน นั้น ได้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมกันอย่างกว้างขวางในหมู่ประชาชนชาวศรีสะเกษ ซึ่งส่วนมากแล้วประชาชนชาวศรีสะเกษไม่เห็นด้วยที่กลุ่มเสื้อแดงจะขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากถูกศาลพิพากษาว่ามีความผิดตามกฎหมายแล้ว อีกทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ กลับหลบหนีไม่มีสำนึกยอมรับผิดตามที่ตนได้ก่อขึ้น

นายสนอง ห้วยจันทร์ ประธานประชาคมอำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า กลุ่มที่พยายามปลุกระดมล่ารายชื่อประชาชนเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้น พากันคิดได้อย่างไร มีสติสมประกอบหรือเปล่า หรือว่าพากันเป็นบ้าไร้สติไปหมดแล้ว เพราะบ้านเมืองนี้มีขื่อมีแป แต่พยายามสร้างกระแสเอาคนทำผิดกฎหมายมาฟอกขาวให้เป็นถูก ทั้งที่ศาลได้พิพากษาให้ลงโทษมีความผิดไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้ประเทศชาติจะอยู่ได้อย่างไร

“กลุ่มคนที่พยายามทำเรื่องนี้เป็นอันตรายต่อประเทศชาติมากทีเดียว ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องควร ดำเนินการตามขอบเขตของกฎหมายกับกลุ่มเหล่านี้อย่างเด็ดขาด” นายสนอง กล่าว

ทางด้าน นายทิวา รุ้งแก้ว ประธานคณะกรรมการประสานงานเพื่อพัฒนาจังหวัดศรีสะเกษ (คปศ.) กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากการขอพระราชทานอภัยโทษนั้น ผู้ต้องหาจะต้องมารับโทษตามกฎหมายเสียก่อนจึงจะถูกต้อง ไม่ใช่หลบหนีไปอยู่ต่างประเทศแล้วคอยให้กลุ่มผู้สนับสนุนพยายามกระทำการใดๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเอง ซึ่งขัดต่อกฎหมายบ้านเมือง

“คนยากจนที่กระทำผิดกฎหมายยังต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำเพื่อรับโทษ แต่หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งร่ำรวยมหาศาลทำผิดกฎหมายแล้วไม่ต้องเข้าไปรับโทษตามกฎหมาย แบบนี้แล้วประเทศชาติบ้านเมืองจะอยู่ได้อย่างไร กฎหมายก็ต้องเป็นกฎหมาย ไม่ใช่มีการเลือกปฏิบัติต่อผู้ใดผู้หนึ่ง” นายทิวา กล่าว

ดังนั้น การที่จะมีการขอพระราชทานอภัยโทษนั้น อย่างน้อย พ.ต.ท.ทักษิณ จะต้องเข้ามารับโทษตามกฎหมายเสียก่อนแล้ว จึงค่อยยื่นเรื่องเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษจึงจะเป็นการปฏิบัติที่ถูกต้อง

“ที่สำคัญ ในห้วงเวลานี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ควรที่จะหยุดอยู่นิ่ง 2-3 ปี ไม่ใช่คอยโฟนอินทำให้คนในชาติบ้านเมืองและประเทศชาติเกิดความแตกแยกอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้ เพราะไม่เกิดผลดีต่อประเทศชาติและต่อตัว พ.ต.ท.ทักษิณ แต่อย่างใด” นายทิวา กล่าว