ศูนย์ข่าวศรีราชา - 4 หนุ่มช่างซ่อมรถ ควงลูกซองสั้นเบอร์ 20 ขี่จักรยานยนต์จากเมืองพัทยา บุกแดนทหารเตรียมก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านตรวจเข้มพบระหว่างทาง ทำทีมีพิรุธเตรียมเผ่น แต่ไม่รอดเจอตะครุบทันควัน
เวลา 04.30 น.ของวันนี้ (16 ก.ค.52) นายวันชัย ณวันดี สารวัตรกำนันตำบลสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน บ้านเตาถ่าน ม.4 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ ทำการออกตรวจความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ เมื่อมาถึงบริเวณหน้าร้านบิ๊กบอส หมูกระบะ ริมถนนสุขุมวิท ม.4 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ ได้พบกลุ่มวัยรุ่นจำนวน 4 คน กำลังเกาะกลุ่มทำท่าทีมีพิรุธ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ได้วิ่งหนีขึ้นรถจักรยานยนต์พยายามหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้สกัดการหลบหนี และเข้าทำการควบคุมตัว
จากการตรวจค้นกลุ่มวัยรุ่นทราบชื่อ คือ นายณัฐวุฒิ ขวัญดี หรือ ไอซ์ อายุ 19 ปี พักอยู่บ้านเลขที่ 8 ม.5 ต.ชากบก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง พบอาวุธปืนลูกสั้นไทยประดิษฐ์ เบอร์ 20 จำนวน 1 กระบอก เหน็บอยู่ที่สะเอว และพบกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 20 จำนวน 1 นัด ในตัวของนายอนุชา อินทสิทธิ์ อายุ 21 ปี พักอยู่บ้านเลขที่ 369 ม.6 ต.สะพานหิน กิ่งอำเภอหนองมะโมง จ.ชัยนาท ส่วนอีก 2 ราย คือ นายสิริชัย ใจชื้น อายุ 19 ปี พักอยู่บ้านเลขที่ 624/8 ม.2 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี และ นายอุทิศ นูพลกรัง อายุ 30 ปี พักอยู่บ้านเลขที่ 111 ม.7 ต.พลกรัง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ตรวจสอบไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย โดยทั้งหมดได้อ้างว่าเป็นลูกจ้างอู่ซ่อมรถดงเซอร์วิส ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวมาทำการสอบสวนทำประวัติ ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ ดำเนินคดี พร้อมตรวจยึดรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่ารุ่นมีโอ สีดำ หมายลขทะเบียน กข 825 ชลบุรี และยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีแดง หมายเลขทะเบียน ขธก 704 ตรัง ไว้ตรวจสอบ
จากการสอบสวน นายณัฐวุฒิ ให้การว่า ได้ซื้ออาวุธปืนมาจาก นายนัท อายุ 25 ปี พักอยู่หลังวัดธรรมสามัคคี เขตพัทยาใต้ ในราคา 4,000 บาท จึงได้พกติดตัวไว้เพื่อป้องกันตัว ซึ่งก่อนถูกจับกุมได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากเมืองพัทยา มุ่งหน้าเข้าอำเภอสัตหีบ เพื่อไปนั่งเล่นบริเวณชายหาดดงตาล แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน
ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ คาดว่า วัยรุ่นกลุ่มนี้เตรียมออกก่อเหตุ ซึ่งขณะนี้ได้ทำการตรวจสอบประวัติว่าเคยก่อคดีหรือไม่ พร้อมดำเนินคดีในข้อหามีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
