ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตำรวจสระแก้วจับเขมรสวมชุดทหารติดอาวุธปืนสงครามอาร์ก้าพับฐาน พร้อมยาบ้า 52 เม็ด และอุปกรณ์โจรกรรมรถจักรยานยนต์
พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ได้รับแจ้งจากชาวบ้านสว่างพัฒนา หมู่ 11 ตำบลหนองม่วง อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ว่าพบชายวัยรุ่นต้องสงสัยสวมเสื้อผ้าสีเขียวทหารจำนวน 2 คน พร้อมสะพายปืนสงครามเดินลักเลาะอยู่ในป่ายูคาลิปตัส ห่างท้ายหมู่บ้านสว่างพัฒนาประมาณ 300 เมตร
หลังรับแจ้งจึงสั่งการให้ พ.ต.อ.สุบิน บุญเล็ก ผกก.สภ.โคกสูง พร้อมด้วย พ.ต.ต.ธรรมวิทย์ เดชแก้วพิจิตร์ สว.สส.และ พ.ต.ท.สายัณห์ รัตนากรณ์ รอง ผกก.สส.สภ.โคกสูง นำกำลังเจ้าหน้าที่ออกทำการตรวจสอบ จนกระทั่งพบ ชายต้องสงสัยเดินสะพายปืนสงครามและสะพายกระเป๋าผ้าแบบเป้ จำนวน 2 คน อยู่กลางป่ายูคาลิปตัส เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบว่าเป็นบุคคลสัญชาติใด
เมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตัว ชายทั้ง 2 คนได้วิ่งหนี พร้อมทิ้งปืนสงครามและกระเป๋าเป้แบบสะพายไว้กลางป่ายูคาลิปตัสหนีหายเข้าไปในป่า เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบพบปืนสงครามอาร์ก้าขนาด 47 หรือเอสเค ชนิดพับฐานทิ้งไว้ 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน 24 นัด อยู่ในชองบรรจุกระสุนขนาด 30 นัด นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตรวจค้นภายในกระเป๋าผ้าแบบสะพายหลัง พบยาบ้าห่อกระดาษ จำนวน 52 เม็ด พร้อมเหล็กปีกเครื่องบินจำนวน 3 อัน
จากนั้น พ.ต.อ.สุบิน บุญเล็ก ผกก.สภ.โคกสูง สั่งเจ้าหน้าที่เดินหน้าตรวจค้นหาคนร้ายที่หลบหนีจนพบ ขณะหลบซ่อนอยู่ในพุ่มไม้ป่าละเมาะทั้ง 2 คน ซึ่งคนหนึ่งสวมกางเกงสีเขียวทหารกัมพูชา สวมเสื้อลายพรางทหาร อีกคนสวมกางเกงสีดำขายาว สวมเสื้อยืดคอกลมสีแดงเลือดหมู จึงควบคุมตัวมาสอบสวน
เมื่อตรวจสอบทราบชื่อ นายจัน เปือน อายุ 28 ปีชาวกัมพูชา ชาวอำเภอโอวโจโรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย และนายฮอม ปุ๊ด อายุ 24 ปี อยู่บ้านหนองจาน อำเภอโอวโจโรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย โดยทั้งสองอ้างว่าเป็นชาวบ้านอาชีพทำนา ที่เดินทางลักลอบเข้ามาเพื่อโจรกรรมรถจักรยานยนต์นำไปขาย โดยใช้เหล็กปีกเครื่องบินชนิดสามเหลี่ยมและชนิดแบน เป็นเครื่องมือโจรกรรมรถ โดยใช้สวมลงในช่องกุญแจแล้วบิดกระตุกก็สามารถติดเครื่องลักลอบโจรกรรมรถจักรยานยนต์ไปได้
นอกจากนั้นยังพบยาบ้าจำนวน 52 เม็ด นำมาติดตัวมาเพื่อขายให้กับชาวบ้านกลุ่มผู้เสพในราคาเม็ดละ 150 บาท ส่วนอาวุธปืนสงครามอาร์ก้า หรือเอสเคขนาด 47 ที่นำติดตัวมา อ้างว่า มีนายน้อยชื่อเล่นคนไทย แต่ไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน เป็นผู้ติดต่อขอซื้ออาวุธปืนสงครามดังกล่าวในราคา 2 พันบาท พร้อมกับยอมรับว่าเคยนำอาวุธปืนสงครามออกมาส่งขายให้กับคนไทยหลายกระบอกแล้ว
เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัว ส่งพนักงานสอบสวน สภ.โคกสูง เพื่อสืบสวนขยายผล และดำเนินคดีข้อหา ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุน โดยเฉพาะปืนสงคราม ที่นายทะเบียน ไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฏหมาย และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายขาย และเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยไม่ได้รับอนุญาตและมีเอกสารเดินทางแต่อย่างใดต่อไป
