ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้การชลบุรี เรียกประชุม หน.สถานีตำรวจภูธร 23 สภ.ทั่วจังหวัด เร่งมาตรการป้องกันร้านทองในพื้นที่ หลังเกิดเหตุปล้นร้านทองเยาวราช เมืองพัทยา พร้อมมอบเงินให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว ด้าน รอง ผบช.ภ.2 ปัดให้ข่าวคนร้ายซื้ออาวุธสงครามจากทหาร หวั่นเกิดความเข้าใจผิด
วันที่ 7 พ.ค.52 ที่ห้องประชุม กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พลตำรวจตรี ปราโมช ปทุมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 และรักษาการ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เรียก หัวหน้าสถานีตำรวจภูธร 23 สถานีทั่วจังหวัดชลบุรี กว่า 40 นาย มาประชุมเพื่อร่วมกันติดตามจับกุมคนร้าย หลังจับกุม 3 คนร้าย ที่ร่วมกันใช้อาวุธและกระสุนปืนสงคราม เข้าปล้นทองจากร้านทองเยาวราช เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นอกจากนี้ ยังมอบนโยบายให้เข้าไปตรวจตราร้านค้าทอง ตรวจกล้องวงจรให้อยู่ในสภาพบันทึกภาพได้ เปิดปิดในเวลาราชการ และให้รับซื้อหรือรับจำนำทองรูปพรรณโดยจดชื่อจากบัตรประจำตัวประชาชนไว้ด้วย
พร้อมทั้งมอบรางวัล เป็นเงินสด 5,000 บาท ให้กับ ร.ต.ท.จำรัส ทองจินดา รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา และ ส.ต.อ.สยาม โพธิ์งาม ผู้บังคับหมู่ป้องกันปราบปราม สภ.เมืองพัทยา ที่ขับรถไล่ล่าคนร้าย จนถูกคนร้ายในอาวุธเอ็ม 16 เครื่องยิงระเบิด เอ็ม 79 ยิง จนรถตำรวจยางแตก และสะเก็ดระเบิดเอ็ม 79 ถูก ส.ต.อ.ได้รับบาดเจ็บตามแขนและขา อีกด้วย นอกจากนี้ ยังพิจารณาขั้นเงินเดือน และชั้นยศ ปลายปีให้อีกด้วย
พล.ต.ต.ปราโมช ปทุมวงศ์ รอง ผบช.ภ.2 รรท.ผบก.ภ.จว.ชลบุรี กล่าวว่า กรณีแถลงข่าว จับโจรปล้นทอง ที่ ตร.ภ.2 ไปนั้น ได้มีหนังสือพิมพ์บางฉบับ ลงว่า ตนเป็นผู้กล่าวว่า คนร้ายซื้ออาวุธปืน และกระสุนปืนสงครามจำนวนมาก มาจาก ข้าราชการทหาร(ยศจ่า)คนหนึ่ง จากทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ อ.เมือง จ.ชลบุรี ตนขอปฏิเสธว่า เป็นข่าวคลาดเคลื่อน ขอยืนยันว่า ไม่ได้กล่าวเช่นนั้น เพียงแต่บอกว่า นายกมล คนร้ายสะสมอาวุธเหล่านี้ มานานนับ 10 ปี และซื้อมาจากตามตะเข็บชายแดนเท่านั้น และขณะนี้ พล.ต.อ.พัทรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ไม่พอใจ เรียกตนเข้าพบ เวลา 17.00 น.วันที่ 7 พ.ค. เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง เกรงว่า จะเกิดความบาดหมางระหว่างองค์กร แต่เบื้องต้น ตนชี้แจงทางโทรศัพท์ว่า ไม่ได้พูด แต่ น.ส.พ.เข้าใจคลาดเคลื่อนไปเอง
สำหรับเหตุการณ์ปล้นร้านทองเยาวราช เมืองพัทยา เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 พ.ค.52 คนร้ายมีทั้งหมด 5 คน ได้ทองรูปพรรณหนักรวม 180 บาท มูลค่า 2.7 ล้านบาท ซึ่งยังเหลือคนร้ายอีก 2 คนที่ยังตามจับไม่ได้ คือ นายสอน หรือ สกล รักษา อายุประมาณ 36 ปี ขออนุมัติศาล จ.พัทยาออกหมายจับไปแล้ววันที่ 7 พ.ค. และ นายดำ หรือเตี้ย ไม่ทราบนามสกุล ลักษณะผมยาว ที่เข้าไปก่อเหตุ ใช้อาวุธทุบกระจก กวาดทองรูปพรรณใส่กระเป๋า ซึ่งมีลักษณะ พูดภาษาเขมรได้