ศูนย์ข่าวศรีราชา - ศูนย์สืบสวนสอบสวน ตร.ภูธรภาค 2 จับกุมหัวโจกแก๊งปล้นร้านทองเยาวราช เมืองพัทยา หลังหนีกบดานบ้านแม่ยายที่นครนายก ได้คืนของกลางทองรูปพรรณ 12.50 บาท ค้นรถตะลึงอาวุธสงครามเพียบ พร้อมกระสุนเกือบ 8,000 นัด รับสารภาพซื้อมาจากผู้ใหญ่ 2 แสนบาท ก่อนปล้น 1 สัปดาห์ ทำงาน 4 คน ได้ทองแบ่งกันคนละ 10 กว่าบาท
ความคืบหน้าคดีปล้นร้านทองที่พัทยา เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 สามารถตามไปจับกุม นายกมล แสงเพิ่ม อายุ 36 ปี เป็นชาวหนองมน ต.เหมือง อ.เมือง จ.ชลบุรี อาชีพขายข้าวหลามที่ตลาดหนองมน บางแสน ได้ที่บ้านแม่ยายของนายกมล อ.องครักษ์ จ.นครนายก
นายกมลเป็นหัวหน้าแก๊งในการชักชวนเพื่อนคนร้าย ร่วมวางแผน หากระสุนและอาวุธปืนสงคราม พร้อมอุปกรณ์ผ้าคลุมหัวในการเข้าปล้นร้านค้าทองเยาวราช เมืองพัทยา ตำรวจนำมาควบคุมตัวไว้ที่ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 อ.เมือง จ.ชลบุรี พร้อมคืนของกลางทองรูปพรรณชนิดต่างๆ 14 เส้น น้ำหนัก 12 บาท 2 สลึง มูลค่าประมาณ 2 แสนบาท ที่แบ่งกันหลังปล้นก่อนแยกย้ายกันหลบหนี
นอกจากนี้ยังสามารถยึดรถโตโยต้า วีโก้ สีน้ำตาล ทะเบียน นข 1090 นครนายก ของนายกมลที่จอดอยู่หน้าบ้านแม่ยายไว้ด้วย เมื่อนำมามาไว้ที่ศูนย์สืบสวนสอบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 เจ้าหน้าที่ต้องตะลึง เมื่อพบทั้งระเบิด อาวุธปืนสงคราม และเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการปล้นครั้งนี้ซุกซ่อนอยู่ในกล่องกระดาษภายในรถ และภายในกระบะหลัง จึงนำออกมาตรวจสอบ
จากการตรวจสอบพบอาวุธปืนสงครามไม่มีทะเบียน เป็นปืนอาก้า เอ็ม 16 ปืนคาร์บิน ปืนกลมือ เอ็ม 3 ปืนเอ็ม 79 จำนวน 7 กระบอก และปืนพกสั้น .38 อีก 1 กระบอก พร้อมระเบิด แก๊สน้ำตา เครื่องกระสุนปืนชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เอ็ม 16 อาก้า กระสุนเอ็ม 79 กระสุนปืนกลเอ็ม 60 จำนวนเกือบ 8,000 นัด และยังพบชุดผ้าคลุมหัวแบบโม่งจำนวน 4 ตัว ชุดพรางทหาร จึงยึดทั้งหมดไปตรวจสอบ และยังนำไปตรวจสอบว่าอาวุธปืนเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และยิงศาลรัฐธรรมนูญที่กรุงเทพฯ ด้วยหรือไม่
นายกมลรับสารภาพว่า ตนขายข้าวหลามอยู่ย่านหนองมน บางแสน ได้ซื้ออาวุธปืนและกระสุนปืนสงครามเหล่านี้มาจากผู้หลักผู้ใหญ่ที่ตนเคารพในราคา 2 แสนบาท เมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้รับการชักชวนจากนายศร เพื่อนกันที่กำลังหลบหนี มาปล้นร้านทองที่พัทยา ซึ่งนายศรบอกว่ามีทองมาก น่าจะแบ่งกันได้คนละ 50 บาท จึงตกลง และนายศรได้ชวนเพื่อนที่ตนเองไม่รู้จักมาอีก 2 คน คือ นายสุรชาติ ยอดทอง ถูกจับที่ดอนเมืองแล้ว และนายเกษม กลิ่นดี ถูกจับที่พัทยาแล้วรวมได้ 4 คนเท่านั้น
นายกมลรับสารภาพอีกว่า ตนเป็นคนหาอาวุธ อุปกรณ์คลุมหัว และร่วมวางแผนกันมาตลอด 1 สัปดาห์ และเดินทางมาดูร้านทองที่เกิดเหตุกับนายศรก่อนเกิดเหตุ 1 วัน ถึงวันปล้น ตนมีหน้าที่ขับรถ โดยใช้รถโตโยต้า วีออส ของเพื่อนนายศร พอปล้นเสร็จมาส่งที่จุดนัดหมายที่ตำรวจพบรถวีออส เพื่อแยกย้ายกันหลบหนี บังเอิญรถวีออสติดหล่มไม่สามารถเอาขึ้นได้ จึงเปลี่ยนแผนทั้งหมดมาขึ้นรถของตน ซึ่งเป็นโตโยต้าวีโก้คันนี้ แล้วไปแยกย้ายกันที่ ต.อ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี นำทองมาแบ่งได้คนละ 10 กว่าบาทเท่านั้น จากนั้นตนจึงไปกบดาน จ.นครนายก จนกระทั่งถูกจับกุมได้