xs
xsm
sm
md
lg

“กอร์ปศักดิ์” หนุนกาญจน์ศึกษาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนรับทวาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กาญจนบุรี - “รองนายกฯ กอร์ปศักดิ์” หนุนกาญจนบุรีศึกษาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนรับทวายโปรเจค์และสร้างสนามบินนานาชาติเชื่อมภูเก็ต หัวหิน เชียงใหม่ และพัทยา

วันนี้ (12 ก.ค.) เวลา 09.30 น.นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาพร้อมคณะกว่า 30 คน เพื่อตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยมีนายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผวจ.กาญจนบุรี นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ รอง ผวจ.กาญจนบุรี, ว่าที่ร้อยตรีเชิดศักดิ์ จำปาเทศ รองผวจ.กาญจนบุรี, สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หัวหน้าส่วนราชการ และภาคธุรกิจเอกชน ให้การต้อนรับและเข้าร่วมประชุมปรึกษาหารือ ณ ห้องประชุมแควน้อย ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี

หลังจากนั้น นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงการเดินทางมาในครั้งนี้ก็เพื่อมาดูศักยภาพในจังหวัดกาญจนบุรี ในด้านเศรษฐกิจ เพื่อเสริมสร้างรายได้และสร้างความเข้มแข็งให้ประชาชนเพราะจากผลกระทบทางเศรษฐกิจโลกทำให้รายได้ของประเทศลดลงกว่าร้อยละ 20 ซึ่งจังหวัดกาญจนบุรีมี 2 เรื่อง คือ เรื่องแรก เป็นเรื่องของผลผลิตทางการเกษตรกับ 2.เรื่องของการท่องเที่ยวของจังหวัด

รองนายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า ดังนั้นจึงต้องหาช่องทางการเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพเพื่อให้สามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้ ซึ่งรายงานของภาคราชการและภาคธุรกิจทราบว่าปัญหาผลผลิตและสินค้าเกษตรในจังหวัดกาญจนบุรี คือ ผลผลิตอ้อยกับมันสำปะหลัง ต่อไร่ยังต่ำและมีพื้นที่แห้งแล้งหลายจุด จึงของบประมาณจากรัฐบาลในเรื่องปรับปรุงคุณภาพพันธ์และระบบชลประทานซึ่งรองนายกรับปากจะให้งบประมาณมาปรับปรุง

ส่วนข้าวเปลือกที่ผลิตออกมาและเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าว โควตาที่ให้ไม่เพียงพอ เกิดปัญหากับชาวนา ซึ่งชาวนาอยากให้รัฐเพิ่มโควตาซึ่งรองนายกฯ กล่าวว่า ต่อไปจะมีการประกันรายได้เกษตรกร โดยจะให้เกษตรกรขึ้นทะเบียนการปลูกและใช้ระบบประกันราคา ซึ่งจะนำเข้า ครม.ในวันอังคารนี้ เบื้องต้นคาดว่าจะใช้ในวันที่ 1 สิงหาคม 2552

โดยประกันราคามันสำปะหลังที่กิโลกรัมละ 1 บาท 70 สตางค์ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ราคากิโลกรัมละ 7 บาท 10 สตางค์ รวมทั้งจะสร้างเสถียรภาพสินค้าเพื่อให้ราคาสูงขึ้น และรัฐบาลจะยกเลิกโครงการรับจำนำสินค้าเกษตร เพราะที่ผ่านมาการรับจำนำพืชผลทางการเกษตรรัฐเสียหายไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท

ส่วนในเรื่องของการท่องเที่ยว นายกอร์ปศักดิ์ได้กล่าวว่า การท่องเที่ยวของจังหวัดจะต้องมีคุณภาพเพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่จังหวัดกาญจนบุรี ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวชมธรรมชาติ จังหวัดจะต้องมีคอมเซ็ปให้ชัดเจนว่านี้คือกาญจนบุรี และการท่องเที่ยวของกาญจนบุรีจะต้องยังยืน เพราะพื้นที่ของจังหวัดกาญจนบุรีส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ป่า เมื่อเป็นเมืองท่องเที่ยวแบบธรรมชาติก็ต้องเป็นธรรมชาติจริง พูดตรงๆเลยว่า แม้แต่ถนนคอนกรีตก็ไม่สามารถทำได้ในธรรมชาติ ตนจึงอยากฝากยุทธศาสตร์ใหม่ทั้ง 2 เรื่องที่กล่าวมานี้

รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจได้กล่าวต่อที่ประชุมท้ายสุดว่า เรื่องที่น่าสนใจที่ต้องช่วยกันคิดต่อไป มีหลายเรื่องที่ตนสนใจคือ เรื่องการเตรียมการเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนเพื่อรองรับโครงการพัฒนาการค้าชายแดนในอนาคตที่อาจจะต้องคิดไปถึงการจัดเตรียมสถานศึกษาที่สร้างบุคลากรรองรับการพัฒนาในรูปแบบนี้ด้วย นักเรียนอาจจะต้องเรียน 3 ภาษา เพื่อสามารถทำงานในเขตพื้นที่ได้อย่างเท่าทันการพัฒนาของโลกวันนี้ และเรื่องการทำสนามบินที่จะต้องเชื่อมโยงการท่องเที่ยวจากกาญจนบุรีที่เป็นเมืองภูเขากับภูเก็ตหรือหัวหินหรือพัทยาที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลหรือเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางท่องเที่ยวภาคเหนือเพื่อเป็นการสร้างเครือข่ายที่จะทำให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศสามารถมาพักผ่อนท่องเที่ยวได้อย่างคุ้มค่าเวลาในทริปเดียวกัน

ส่วนเรื่องการปลูกพืชเศรษฐกิจที่น่าสนใจคือการปลูกต้นแอสปาลากัสที่สีขาวมีราคามากกว่าสีเขียว เรื่องแบบนี้ต้องคิดและให้การส่งเสริมจะเกิดรายได้แก่กาญจนบุรี

ด้าน นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผวจ.กาญจนบุรี ได้กล่าวในที่ประชุมว่า พื้นที่ดังกล่าวยังมีปัญหาอยู่ 3 อย่าง ก็คือ ปัญหายาบ้า ปัญหาเรื่องทรัพยากรไม้ และ ปัญหาสุดท้าย คือ ปัญหาเรื่องแรงงานต่างด้าวหลบนี้เข้าเมือง ส่วนเรื่องของความเจริญของ จ.กาญจนบุรี ในอนาคต ถ้ามีความเป็นไปได้ในกรณีมีการเปิดด่านบ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ได้ เส้นทางดังกล่าวจะสร้างความเจริญมาสู้จังหวัดกาญจนบุรีได้อย่างแน่นอน เพราะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ห่างทะเลอันดามันเพียงร้อยกว่ากิโลเมตร และเมื่อมีการเปิดด่านบริเวณนี้การติดต่อค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้านจะสะดวกสบายกว่าช่องทางอื่นๆ

ทางด้าน นายธีระชัย ชุติมันท์ประธานหอการค้าและประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดกาญจนบุรี ได้เสนอปัญหากับนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐบาทช่วยแก้ไขก็คือ เรื่องการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวและภาคอุตสาหกรรมในจังหวัดกาญจนบุรีอย่างมาก เนื่องจากนักท่องเที่ยวขาดความเชื่อมั่นในความปลอดภัย รวมทั้ง ต้องการให้รัฐบาลสร้างความเชื่อมั่นกับชาวต่างชาติเกี่ยวกับเสถียรภาพรัฐบาล เพราะไม่กล้าลงทุน

และในตอนบ่ายช่วงเวลาประมาณ 14.30 น. รองนายกรัฐมนตรีได้มีการพบปะกับตัวแทนเกษตรกรในจังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 90 ราย เพื่อมอบนโยบายและรับฟังปัญหาของกลุ่มเกษตรกรอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น