กาญจนบุรี - จังหวัดกาญจนบุรีจัดสัมมนา “เตรียมความพร้อมก่อนเปิดด่านชายแดนบ้านพุน้ำร้อน” ตามโครงการท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมเมืองทวายประเทศพม่า วันพรุ่งนี้ที่ห้องประชุมภีมวนา โรงแรมรอยัล ริเวอร์แควรีสอร์ท แอนด์ สปา กาญจนบุรี
วันนี้ (30 ก.ค.) เวลา 11.00 น.ว่าที่ ร.ต.เชิดศักดิ์ จำปาเทศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยเกี่ยวกับการจัดโครงการประชุมสัมมนาเรื่อง “การเปิดด่านชายแดนบ้านพุน้ำร้อน โอกาสการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดกาญจนบุรีและประเทศไทย” ว่า โครงการดังกล่าวมีหลักการและเหตุผล ก็คือ เป็นโครงการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การเชื่อมโยงเส้นทางการค้าของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคได้เกิดขึ้น และการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว
จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งได้รับโอกาสจากการพัฒนาดังกล่าวที่เห็นได้ คือ การดำเนินการพัฒนาโครงการท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมเมืองทวาย รวมทั้งถนนเชื่อมต่อทวายกับชายแดนไทย ซึ่งบริษัท อิตาเลียนไทย จำกัด (มหาชน) ได้รับสัมปทานดำนินการ
ว่าที่ ร.ต.เชิดศักดิ์ จำปาเทศ กล่าวต่อว่า จังหวัดกาญจนบุรี ทั้งภาครัฐและเอกชนจำเป็นจะต้องเตรียมการรับกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และเพื่อเป็นการเสริมสร้างศักยภาพของภาคเอกชน ประชาชน และภาครัฐ ให้มีความพร้อมความเข้มแข็งเพื่อรองรับความเจริญที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต และจังหวัดกาญจนบุรี สามารถเพิ่มศักยภาพในทางการค้าให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุดเพื่อรองรับในการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดได้เมื่อโครงการท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมเมืองทวาย รวมทั้งถนนเชื่อมต่อระหว่างเมืองทวายกับชายแดนจังหวัดกาญจนบุรีเสร็จ และคาดว่า จะเกิดขึ้นในอีก 6-7 ปี ข้างหน้า
ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมทั้งภาครัฐและเอกชน จังหวัดกาญจนบุรี จึงได้จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การเตรียมความพร้อมของจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อรองรับการเปิดด่านชายแดนบ้านพุน้ำร้อน ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี” ขึ้นในวันที่ 31 กรกฎาคม 2552 นี้ที่ห้องประชุมภีมวนา โรงแรมรอยัล ริเวอร์แควรีสอร์ท แอนด์สปา อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น.
โดยมีประเด็นการสัมมนา 3 ประเด็น คือ 1.การเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดด่าน ของภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรต่างๆ และประชาชน 2.การกำหนดและดำเนินกิจกรรมบริเวณพื้นที่ชายแดนบ้านพุน้ำร้อน และ 3.เรื่องลักษณะการลงทุนในฝั่งประเทศพม่า
โดยในวันดังกล่าวช่วงเช้าจัดให้มีการบรรยายพิเศษในหัวข้อเรื่อง “การเปิดด่านชายแดนบ้านพุน้ำร้อน โอกาสการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดกาญจนบุรี และประเทศไทย” โดยนายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นผู้บรรยาย
ต่อจากนั้น เป็นการบรรยายในหัวข้อของลักษณะการลงทุนในรัฐทวายสหภาพพม่า และเรื่องการเตรียมความพร้อมอย่างไรเมื่อมีการเปิดด่านพุน้ำร้อน จากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) วิทยากรจากกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศกระทรวงพาณิชย์ วิทยากรจาก สนง.คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)
ว่าที่ ร.ต.เชิดศักดิ์ จำปาเทศ กล่าวต่อว่า ส่วนในภาคบ่ายจะเป็นการอภิปรายรายกลุ่มในหัวข้อที่ 1.ศักยภาพการพัฒนาเศรษฐกิจของสหภาพพม่า 2.โอกาสทางการค้าการลงทุนในเขตตะนาวศรี 3.Dawei Project และเส้นทางเชื่อมเศรษฐกิจกาญจนบุรี 4.รูปแบบการลงทุนในสหภาพพม่า และ 5.นโยบายรัฐบาลไทยต่อการเปิดเศรษฐกิจสู่ประเทศสหภาพพม่า
โดยผู้เข้าร่วมสัมมนาจะต้องแบ่งกลุ่มออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 ประชาชนจะต้องเตรียมความพร้อมอย่างไรเมื่อมีการเปิดด่าน กลุ่ม 2 โครงการพัฒนาเร่งด่วน โครงการที่สมควรการลงทุนที่มากับประเทศพม่าและในจังหวัดกาญจนบุรี
โดยทั้ง 3 กลุ่ม จะต้องระดมความคิดเห็นเพื่อเสนอที่ประชุมดังกล่าว โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากศูนย์แม่โขงศึกษา สถาบันเอเชียศึกษาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้ดำเนินการ
ว่าที่ ร.ต.เชิดศักดิ์ จำปาเทศ กล่าวเพิ่มเติมถึงวัตถุประสงค์ของโครงการ ว่า เพื่อรับทราบความคิดเห็นโดยการมีส่วนร่วมจากประชาชน นักธุรกิจภาคเอกชน/อำเภอ/องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นพื้นที่ชายแดน ภาคประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำหรับนำไปเป็นแนวทางในการกำหนดยุทธศาสตร์ แผนงาน โครงการพัฒนาจังหวัดกาญจนบุรี
ว่าที่ ร.ต.เชิดศักดิ์ จำปาเทศ กล่าวว่า ส่วนในเรื่องของประโยชน์หลังการประชุมสัมมนาของผู้เข้าร่วมโครงการก็คือ 1.ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับทราบความคิดเห็นในประเด็นที่กำหนดจากประชาชน นักธุรกิจภาคเอกชน อำเภอ อปท.พื้นที่ชายแดน และภาคเอกชน 2.การนำความคิดเห็นดังกล่าวมาประมวลใช้เป็นแนวทางในการกำหนดยุทธศาสตร์พัฒนาจังหวัดกาญจนบุรี และ 3.คือภาคเอกชน ประชาชนจะได้รับทราบถึงทิศทางแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจในจังหวัดกาญจนบุรี หากภาคเอกชน ประชาชน ท่านใดสนใจเข้าร่วมรับฟังความคิดเห็นดังกล่าวได้ตามวันเวลาดังกล่าว
วันนี้ (30 ก.ค.) เวลา 11.00 น.ว่าที่ ร.ต.เชิดศักดิ์ จำปาเทศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยเกี่ยวกับการจัดโครงการประชุมสัมมนาเรื่อง “การเปิดด่านชายแดนบ้านพุน้ำร้อน โอกาสการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดกาญจนบุรีและประเทศไทย” ว่า โครงการดังกล่าวมีหลักการและเหตุผล ก็คือ เป็นโครงการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การเชื่อมโยงเส้นทางการค้าของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคได้เกิดขึ้น และการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว
จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งได้รับโอกาสจากการพัฒนาดังกล่าวที่เห็นได้ คือ การดำเนินการพัฒนาโครงการท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมเมืองทวาย รวมทั้งถนนเชื่อมต่อทวายกับชายแดนไทย ซึ่งบริษัท อิตาเลียนไทย จำกัด (มหาชน) ได้รับสัมปทานดำนินการ
ว่าที่ ร.ต.เชิดศักดิ์ จำปาเทศ กล่าวต่อว่า จังหวัดกาญจนบุรี ทั้งภาครัฐและเอกชนจำเป็นจะต้องเตรียมการรับกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และเพื่อเป็นการเสริมสร้างศักยภาพของภาคเอกชน ประชาชน และภาครัฐ ให้มีความพร้อมความเข้มแข็งเพื่อรองรับความเจริญที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต และจังหวัดกาญจนบุรี สามารถเพิ่มศักยภาพในทางการค้าให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุดเพื่อรองรับในการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดได้เมื่อโครงการท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมเมืองทวาย รวมทั้งถนนเชื่อมต่อระหว่างเมืองทวายกับชายแดนจังหวัดกาญจนบุรีเสร็จ และคาดว่า จะเกิดขึ้นในอีก 6-7 ปี ข้างหน้า
ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมทั้งภาครัฐและเอกชน จังหวัดกาญจนบุรี จึงได้จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การเตรียมความพร้อมของจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อรองรับการเปิดด่านชายแดนบ้านพุน้ำร้อน ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี” ขึ้นในวันที่ 31 กรกฎาคม 2552 นี้ที่ห้องประชุมภีมวนา โรงแรมรอยัล ริเวอร์แควรีสอร์ท แอนด์สปา อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น.
โดยมีประเด็นการสัมมนา 3 ประเด็น คือ 1.การเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดด่าน ของภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรต่างๆ และประชาชน 2.การกำหนดและดำเนินกิจกรรมบริเวณพื้นที่ชายแดนบ้านพุน้ำร้อน และ 3.เรื่องลักษณะการลงทุนในฝั่งประเทศพม่า
โดยในวันดังกล่าวช่วงเช้าจัดให้มีการบรรยายพิเศษในหัวข้อเรื่อง “การเปิดด่านชายแดนบ้านพุน้ำร้อน โอกาสการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดกาญจนบุรี และประเทศไทย” โดยนายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นผู้บรรยาย
ต่อจากนั้น เป็นการบรรยายในหัวข้อของลักษณะการลงทุนในรัฐทวายสหภาพพม่า และเรื่องการเตรียมความพร้อมอย่างไรเมื่อมีการเปิดด่านพุน้ำร้อน จากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) วิทยากรจากกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศกระทรวงพาณิชย์ วิทยากรจาก สนง.คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)
ว่าที่ ร.ต.เชิดศักดิ์ จำปาเทศ กล่าวต่อว่า ส่วนในภาคบ่ายจะเป็นการอภิปรายรายกลุ่มในหัวข้อที่ 1.ศักยภาพการพัฒนาเศรษฐกิจของสหภาพพม่า 2.โอกาสทางการค้าการลงทุนในเขตตะนาวศรี 3.Dawei Project และเส้นทางเชื่อมเศรษฐกิจกาญจนบุรี 4.รูปแบบการลงทุนในสหภาพพม่า และ 5.นโยบายรัฐบาลไทยต่อการเปิดเศรษฐกิจสู่ประเทศสหภาพพม่า
โดยผู้เข้าร่วมสัมมนาจะต้องแบ่งกลุ่มออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 ประชาชนจะต้องเตรียมความพร้อมอย่างไรเมื่อมีการเปิดด่าน กลุ่ม 2 โครงการพัฒนาเร่งด่วน โครงการที่สมควรการลงทุนที่มากับประเทศพม่าและในจังหวัดกาญจนบุรี
โดยทั้ง 3 กลุ่ม จะต้องระดมความคิดเห็นเพื่อเสนอที่ประชุมดังกล่าว โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากศูนย์แม่โขงศึกษา สถาบันเอเชียศึกษาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้ดำเนินการ
ว่าที่ ร.ต.เชิดศักดิ์ จำปาเทศ กล่าวเพิ่มเติมถึงวัตถุประสงค์ของโครงการ ว่า เพื่อรับทราบความคิดเห็นโดยการมีส่วนร่วมจากประชาชน นักธุรกิจภาคเอกชน/อำเภอ/องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นพื้นที่ชายแดน ภาคประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำหรับนำไปเป็นแนวทางในการกำหนดยุทธศาสตร์ แผนงาน โครงการพัฒนาจังหวัดกาญจนบุรี
ว่าที่ ร.ต.เชิดศักดิ์ จำปาเทศ กล่าวว่า ส่วนในเรื่องของประโยชน์หลังการประชุมสัมมนาของผู้เข้าร่วมโครงการก็คือ 1.ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับทราบความคิดเห็นในประเด็นที่กำหนดจากประชาชน นักธุรกิจภาคเอกชน อำเภอ อปท.พื้นที่ชายแดน และภาคเอกชน 2.การนำความคิดเห็นดังกล่าวมาประมวลใช้เป็นแนวทางในการกำหนดยุทธศาสตร์พัฒนาจังหวัดกาญจนบุรี และ 3.คือภาคเอกชน ประชาชนจะได้รับทราบถึงทิศทางแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจในจังหวัดกาญจนบุรี หากภาคเอกชน ประชาชน ท่านใดสนใจเข้าร่วมรับฟังความคิดเห็นดังกล่าวได้ตามวันเวลาดังกล่าว
