หน.ด่านชั่งน้ำหนักแปดริ้วขึ้นโรงพักแจ้งความเอาผิดเสี่ยใหญ่แล้ว

ฉะเชิงเทรา - หัวหน้าด่านชั่งน้ำหนักบางไผ่แปดริ้วโร่ขึ้นโรงพักแจ้งความเอาผิดเสี่ยใหญ่ยกพวกปิดด่านขวางถนนแล้ว พร้อมเตรียมดำเนินคดีถึงที่สุด ขณะตำรวจระบุช่องหากเข้าข่ายการกระทำผิดในข้อหาใดจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีกหลายกระทง

นายยงนริศ เลิศศิริจิตร ผู้จัดการหัวหน้าสถานีตรวจสอบน้ำหนักบางไผ่ ถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี พร้อมพวกได้บุกขึ้นโรงพัก เข้าพบ ร.ต.ต.วัลลภ คาจะโปะ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อเสี่ยใหญ่เจ้าของรถบรรทุก เบื้องต้นทราบชื่อเพียง “เสี่ยทรงชัย” แล้ว หลังถูกเสี่ยคนดังเจ้าของบริษัทรถบรรทุกพ่วงขนส่ง “ชัยรัชการ (กรุงเทพ)” หรือบริษัท เอสซีอาร์ ทรานสปอร์ต จำกัด (SCR TRANSPORT CO.,LTD) ขนลูกน้องบุกเข้ายึดถนนปิดด่านเมื่อช่วงเย็นวานนี้

โดยมีนายชัยสิทธิ์ สังฆรัตน์ อายุ 46 ปี หน้าหน้าชุดด่านชั่งน้ำหนักที่ 2 และ นายสามารถ เบ้าทอง อายุ 23 ปี พนักงานจัดรถเข้าชั่งร่วมเป็นพยาน ในการแจ้งความดำเนินคดี ซึ่ง นายยงนริศกล่าวว่า คดีนี้จะไม่ขอยอมความอย่างเด็ดขาด โดยจะแจ้งความดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ทางหลวง 2535 ในทุกกรณี ทั้งการเข้าปิดกั้นขวางทางหลวงด้วยสิ่งกีดขวางอันตราย การปิดกั้นขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ภายในด่านชั่งน้ำหนัก

ในส่วนเรื่องเกี่ยวกับการคุกคามเข้าผลักหน้าอก ทำร้ายร่างกาย และด่าทอนั้น จะไม่แจ้งความเอาผิด เนื่องจากถือเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบ และเขาไม่เข้าใจกฎหมายตาม พ.ร.บ.ทางหลวง เกี่ยวกับการชั่งน้ำหนักรถบรรทุกพ่วง ที่ต้องจับแยกตัวรถ และหางพ่วง ซึ่งเราได้พยายามที่จะเข้าอธิบายชี้แจงให้เข้าใจ แต่เขาไม่ยอมฟัง และใช้แต่อารมที่รุนแรงด่าทอมายังเจ้าหน้าที่อย่างหยาบคาย ลุกลามไปจนถึงบุพการี

แต่ที่สำคัญเขาได้นำกุญแจรถสำรอง มาไขรถบรรทุกพ่วงของกลาง เพื่อขับเคลื่อนนำไปปิดถนน นอกจากนี้ยังได้นำรถยนต์กระบะขับขึ้นไปผิดบนแท่นชั่งน้ำหนักด้วย จนทำให้รถที่ขับผ่านเส้นทางอีกจำนวนมากไม่สามารถขึ้นเข้าชั่งได้ จนเกิดปัญหาการจราจรติดขัดยาวไปตามทาง ทั้งบนด่านชั่ง และบนถนนทางหลวงสาย 304 ที่ไม่สามารถสัญจรได้ และเกิดเหตุวุ่นวายขึ้น เมื่อตนได้พยายามที่จะหาทางนำรถของเขาออกจากด่านชั่ง จึงยิ่งทำให้เขาไม่พอใจ และเข้ามาผลักหน้าอกของตน

ด้าน ร.ต.ต.วัลลภ กล่าวว่า เบื้องต้นผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความดำเนินคดี ต่อเจ้าของรถบรรทุกในข้อหา “ปิดกั้นทางหลวง วางวัตถุที่แหลมหรือมีคมวางบนทางหลวง นำสิ่งใดมาขวาง หรือวางบนทางหลวง หรือกระทำการใดๆ บนทางหลวงในลักษณะที่อาจจะเกิดอันตราย หรือเสียหายแก่ยานพาหนะ หรือบุคคล” ตามมาตรา 39 และ 71 พ.ร.บ.ทางหลวง ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

และในกรณีเข้าปิดตาชั่ง ได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า “ใช้และเข้าครอบครอง วัตถุสำหรับใช้งานทาง” ตามมาตรา 30 วรรค 1 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ไว้ก่อน ส่วนข้อหาอื่นๆ นั้นหากเข้าข่ายในข้อหาใดก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีกในภายหลังต่อไป