ฉะเชิงเทรา-กลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้าบางคล้ายังปักหลักในที่ตั้ง ท่ามกลางข่าวลือจะมีหมายศาลมาจับแกนนำเพื่อสลายการชุมนุม ชาวบ้านยันตั้งป้อมรอสู้เจ้าหน้าที่ พร้อมเตรียมหาแนวทางการต่อสู้ขั้นต่อไป
วันนี้( 11 มิ.ย.52 ) เวลา 16.30 น. บรรยากาศการชุมนุมปิดถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา – กบินทร์บุรี และถนนสาย บางคล้า-บางตลาด ของกลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้าบางคล้า เป็นไปอย่างเงียบเหงา หลังจากไม่มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐเข้าร่วมเจรจา ขณะมีกระแสข่าวลือในกลุ่มผู้ชุมนุมหนาหูว่า ทางเจ้าหน้าที่เตรียมที่จะนำหมายศาลเข้ามาบุกจับกุมแกนนำเพื่อสลายการชุมนุม จึงทำให้กลุ่มชาวบ้านต่างพากันหวาดระแวงเจ้าหน้าที่ และรถยนต์ที่ผ่านเข้าไปใกล้ยังบริเวณจุดที่มีการชุมนุมทุกคัน พร้อมเตรียมที่จะทำการขัดขืนต่อสู้
ขณะที่ น.ส.สมฤทัย นาคนพคุณ อายุ 40 ปี แกนนำหลักชาวบ้าน กล่าวว่า ในวันนี้การชุมนุมยังคงเป็นไปอย่างปกติ ชาวบ้านต่างพากันทำกิจกรรมส่วนตัว บ้างก็นั่งคุยกัน บ้างก็นอนพักผ่อนเอาแรง ซึ่งในวันนี้ตลอดทั้งวันไม่มีตัวแทนจากภาครัฐ หรือหน่วยงานใดเข้ามาเจรจาด้วย ขณะที่ชาวบ้านได้ประชุมหาแนวทางการเรียกร้อง ยื่นข้อเสนอใหม่ เพื่อให้ได้ทางออก หรือข้อยุติโดยเร็วเช่นเดียวกัน
จากการประชุมได้ข้อสรุปในการเรียกร้อง หรือข้อเสนอรวม 3 ข้อ โดยมีข้อเสนอที่สำคัญเพียง 1 ข้อ คือ ต้องการให้หน่วยงานภาครัฐ (กระทรวงพลังงาน) เจรจากับกลุ่มนายทุนบริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าภาคเอกชน หาพื้นที่ก่อสร้างใหม่ ที่มีความเหมาะสมกว่านี้ หรือต้องการที่จะให้ย้ายโครงการก่อสร้างนี้ออกไปจากพื้นที่ อ.บางคล้า โดยที่ทางกลุ่มชาวบ้านจะไม่เข้าไปขัดขวาง หากโครงการย้ายไปยังสถานที่อื่น ส่วนข้อเรียกร้องต่อมา คือ ห้ามดำเนินคดีใดๆ ต่อกลุ่มผู้ชุมนุม ตลอดช่วงที่ผ่านมา และห้ามไม่ให้ทางฝ่ายบริษัทเข้ามาดำเนินการใดๆ ในพื้นที่ ซึ่งได้เตรียมข้อเสนอใหม่นี้ไว้ยื่นต่อทางจังหวัด หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะเข้ามาเจรจาด้วย
ส่วนจะมีประชาชนออกมาปิดถนนสายต่างๆ เพื่อร่วมต่อสู้ด้วยนั้น เป็นเรื่องของประชาชนในแต่ละพื้นที่ ที่ไม่เห็นด้วยกับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งนี้ และดำเนินการกันเอง ซึ่งล่าสุดทราบว่า ได้มีการเตรียมการที่จะปิดถนนสายแหลมประดู่ (บ้านโพธิ์-แปลงยาว) อีกหนึ่งจุด
ด้านนายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ขณะนี้ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้ลดความแข็งขันลงบ้างแล้ว ซึ่งทางจังหวัดอยากขอร้องว่าอะไรที่ยอมได้ก็ขอให้ผู้ชุมนุมยอมอ่อนลงบ้าง สำหรับข้อเรียกร้องทีจะให้เปลี่ยนพื้นที่การก่อสร้างนั้น ทางจังหวัดตอบไม่ได้ ซึ่งทางจังหวัดได้รายงานไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานแล้ว ส่วนข้อที่ 2 ที่ไม่ให้เอาผิดกับผู้ชุมนุมนั้น ทางภาครัฐไม่ได้ทำอะไร อยู่ที่ผู้เสียหาย หรือทางพนักงานสอบสวน สภ.บางคล้า ว่ามีการเข้าแจ้งความดำเนินคดี หรือจะยินยอมหรือไม่ และข้อสุดท้าย อย่าให้ทางฝ่ายบริษัทเข้ามาทำอะไรนั้น ขณะนี้เชื่อว่าทางฝ่ายบริษัทคงไม่กล้าเข้ามาทำอะไรในพื้นที่แล้ว
ส่วนที่มีข่าวลือว่าทางจังหวัดจะขอหมายศาลเข้าไปสลายการชุมนุมนั้น คงไม่เหมาะสมที่ทางจังหวัดจะทำอย่างนั้น เป็นสิทธิของผู้เสียหาย ผู้ใช้เส้นทาง ที่ได้รับผลกระทบจากการปิดถนนชุมนุมของกลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้า หากเขาไปร้องต่อศาล ซึ่งเป็นการเรียกร้องทางแพ่ง ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อกายภาพ ถนน การคมนาคม เสียหายหลายร้อยล้านบาทแล้ว นายสุรพล กล่าว