ฉะเชิงเทรา - ชาวบ้านกลุ่มต่อต้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าบางคล้า ฮือปิดถนนสายหลัก 304 อีกรอบ หลังถูกฝ่ายนายทุนล้มโต๊ะการเจรจาไตรภาคีสามฝ่ายเหลว พร้อมรุกเข้าเคลื่อนไหวในพื้นที่ ด้านตำรวจเตรียมกำลังปราบฝูงชนเข้าดูแล
วันนี้ (8 มิ.ย.) เวลา 11.30 น.ที่บริเวณระหว่างหลัก กม.ที่ 12-13 ถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี พื้นที่ ม.5 ต.เสม็ดเหนือ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีชาวบ้านกลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้า จำนวนกว่า 300-400 คน รุกฮือขึ้นมาปิดถนน ทั้งด้านฝั่งขาเข้าและขาออกทั้ง 4 ช่องทาง จนทำให้บนถนนสายดังกล่าวผู้ใช้เส้นทางไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้
นายมาโนช วรรณประเวศ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/8 ม.3 ต.เสม็ดเหนือ ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการไตรภาคี ตัวแทนชาวบ้านในการเจรจา 3 ฝ่าย กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ต้องออกมาเคลื่อนไหว ปิดถนนสายหลัก เพื่อประท้วงต่อต้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าอีกครั้งนั้น เนื่องมาจาก ทางฝ่ายบริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าภาคเอกชน ได้ล้มโต๊ะคณะกรรมการไตรภาคีที่ลงนามแต่งตั้งขึ้นมา โดย นายอานนท์ พรหมนารท อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว
ประกอบด้วย ตัวแทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาชน และตัวแทนฝ่ายนายทุนผู้ก่อตั้งโรงไฟฟ้า ฝ่ายละ 16 คนรวม 3 ฝ่าย เพื่อแก้ไขปัญหา ความขัดแย้งระหว่างชาวบ้าน และฝ่ายนายทุน โดยที่ทางฝ่ายบริษัทเป็นฝ่ายบอกยกเลิกไม่ยินยอมเข้าร่วมการประชุมของคณะกรรมการไตรภาคีอีกต่อไป ทั้งที่ ที่ผ่านมาได้เคยมีการประชุมเจรจาหาข้อสรุปกันหลายครั้ง หลายหน และได้ช่วยบรรเทาปัญหาลดความขัดแย้งลงไปได้บ้างก็ตาม
นอกจากนี้ ฝ่ายนายทุนยังได้รุกเดินหน้าที่จะทำการก่อสร้างโรงไฟฟ้าต่อไป โดยในวันนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาในพื้นที่โครงการก่อตั้ง เพื่อทำการเจาะสำรวจดินอีกด้วย จึงทำให้ชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างออกมาแสดงความไม่พอใจ และออกมารวมตัวกันชุมนุมปิดถนนกดดัน และโห่ร้องไล่ รวมทั้งเรียกร้องให้ทางด้านหน่วยงานภาครัฐเข้ามาแก้ไขปัญหาอีกครั้ง โดยจะปักหลักชุมนุมอยู่บนถนนต่อไป จนกว่าจะได้พบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศการชุมนุมปิดถนนในครั้งนี้ ได้เกิดข้อโต้แย้งกันเองของกลุ่มต่อต้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้า ในเรื่องของการชุมนุมปิดถนน โดยฝ่ายหนึ่งจะให้ชาวบ้านปิดถนนเพียงด้านขาเข้าฝั่งเดียว และเปิดให้รถวิ่งผ่านเส้นทางได้อย่างช้าๆ สวนทางไปมาในฝั่งตรงข้าม แต่อีกฝ่ายหนึ่งจะปิดถนนอย่างเด็ดขาดจนรถยนต์ไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ขณะที่ทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สั่งเร่งระดมกำลังกองร้อยความคุมฝูงชนจำนวน 1 กองร้อย เข้ามาคอยดูแลรักษาความสงบในการชุมนุม ส่วนการจราจรในบริเวณดังกล่าวติดขัดเป็นอย่างมาก เนื่องจากรถไม่สามารถใช้เส้นทางผ่านไปมาได้