ฉะเชิงเทรา- เจ้าหน้าที่บังคับคดี นำหมายศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา เข้าปิดประกาศให้กลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้าเปิดเส้นทาง สาย 304 ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี ส่วนชาวบ้านเมินคำสั่ง ยันชุมนุมสู้ต่อ
วันนี้ (12 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่สำนักงานบังคับคดีจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งนำโดย พล.ต.ต.สุรพงษ์ กายตะวัน ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา จำนวนกว่า 200 นาย ได้นำหมายคำสั่งศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา เลขที่ 598/2552 ลงวันที่ 12 มิ.ย.2552 ซึ่งมี นายพงษ์สุรีย์ อัสพันธ์ พร้อมพวก รวม 3 คน ร้องขอให้ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา
สั่งให้ นายวรรณา รอดพิทักษ์ พร้อมพวกรวม 9 คน คือ น.ส.ทรรศนีย์ วัฒนกิจวิชัย, น.ส.สมฤทัย นาคนพคุณ, นายวรพจน์ กุศลสงเคราะห์กุล, นายหย่อน บุญสุริยามาสมบัติ, นายอุดม สุดนุช, นายไพเราะ เลิศศิริ, นางนวลพันธ์ แฉ่งเจริญ และนายมาโนช วรรณประเวศ เปิดเส้นทางพื้นที่การจราจร บนถนนสาย 304 ตลอดเส้นทางในจังหวัดฉะเชิงเทรา ทุกช่องทางเดินรถ เพื่อให้รถยนต์และยานพาหนะทุกชนิดผ่านได้
ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่นำหมายศาลดังกล่าวไปปิดประกาศ ไม่มีบุคคลทั้ง 9 อยู่ในบริเวณที่ชุมนุม โดยทุกคนได้หลบเลี่ยงออกจากที่ชุมนุมไปก่อนหน้าแล้ว จึงมีเพียงแต่ชาวบ้าน ซึ่งเป็นผู้ชุมนุมจำนวนกว่า 700 คน ยังคงปักหลัก และยืนยันที่จะชุมนุมต่อไป
โดยขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังจะนำหมายศาลเข้าไปติดประกาศ ได้มีการปะทะคารมกับกลุ่มผู้ชุมนุมเพียงเล็กน้อย ก่อนที่ชาวบ้านจะยินยอมเปิดทางให้ เจ้าหน้าที่ประกาศหมายห้ามชุมนุมชั่วคราวดังกล่าว ให้แก่ที่ชุมนุมทราบ ผ่านทางเครื่องขยายเสียง และเดินปิดประกาศหมายดังกล่าวโดยรอบตลอดจนทั่วบริเวณพื้นที่ของการชุมนุม
วันนี้ (12 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่สำนักงานบังคับคดีจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งนำโดย พล.ต.ต.สุรพงษ์ กายตะวัน ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา จำนวนกว่า 200 นาย ได้นำหมายคำสั่งศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา เลขที่ 598/2552 ลงวันที่ 12 มิ.ย.2552 ซึ่งมี นายพงษ์สุรีย์ อัสพันธ์ พร้อมพวก รวม 3 คน ร้องขอให้ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา
สั่งให้ นายวรรณา รอดพิทักษ์ พร้อมพวกรวม 9 คน คือ น.ส.ทรรศนีย์ วัฒนกิจวิชัย, น.ส.สมฤทัย นาคนพคุณ, นายวรพจน์ กุศลสงเคราะห์กุล, นายหย่อน บุญสุริยามาสมบัติ, นายอุดม สุดนุช, นายไพเราะ เลิศศิริ, นางนวลพันธ์ แฉ่งเจริญ และนายมาโนช วรรณประเวศ เปิดเส้นทางพื้นที่การจราจร บนถนนสาย 304 ตลอดเส้นทางในจังหวัดฉะเชิงเทรา ทุกช่องทางเดินรถ เพื่อให้รถยนต์และยานพาหนะทุกชนิดผ่านได้
ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่นำหมายศาลดังกล่าวไปปิดประกาศ ไม่มีบุคคลทั้ง 9 อยู่ในบริเวณที่ชุมนุม โดยทุกคนได้หลบเลี่ยงออกจากที่ชุมนุมไปก่อนหน้าแล้ว จึงมีเพียงแต่ชาวบ้าน ซึ่งเป็นผู้ชุมนุมจำนวนกว่า 700 คน ยังคงปักหลัก และยืนยันที่จะชุมนุมต่อไป
โดยขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังจะนำหมายศาลเข้าไปติดประกาศ ได้มีการปะทะคารมกับกลุ่มผู้ชุมนุมเพียงเล็กน้อย ก่อนที่ชาวบ้านจะยินยอมเปิดทางให้ เจ้าหน้าที่ประกาศหมายห้ามชุมนุมชั่วคราวดังกล่าว ให้แก่ที่ชุมนุมทราบ ผ่านทางเครื่องขยายเสียง และเดินปิดประกาศหมายดังกล่าวโดยรอบตลอดจนทั่วบริเวณพื้นที่ของการชุมนุม
