xs
xsm
sm
md
lg

“พณ.”ระดมสมองชาวนา/เถ้าแก่โรงสีอีสานใต้-หวั่นเปิดตลาด“ATFA”ทำลายข้าวไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กรมการค้าต่างประเทศ ก.พาณิชย์ ได้เปิดเวทีสาธารณะรับฟังความคิดเห็น กรณี การเปิดตลาดข้าวภายใต้ ATFA จากเกษตรและผู้ประกอบการ 10 จว.อีสานใต้ที่จ.สุรินทร์ วันนี้ ( 25 มิ.ย.)
สุรินทร์ – กรมการค้าต่างประเทศ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินสายเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นชาวนา ผู้ประกอบการค้าข้าว โรงสีข้าวและผู้ประกอบการอุตฯ ที่ใช้ข้าวเป็นวัตถุดิบ 10 จว.อีสานใต้ ระดมสมองเตรียมพร้อมรับมือไทยเปิดตลาดการค้าข้าวตามความผูกพันภายใต้ ATFA ม.ค.ปีหน้า เผยวิตกปัญหาการสวมสิทธิ์-ลอบนำเข้าข้าวคุณภาพต่ำ-ติดเชื้อโรคและศัตรูพืช ย้ำรัฐต้องใช้มาตรการคุมเข้มนำเข้าข้าวหวั่นทำลาย“หอมมะลิ”ชื่อก้องโลกและข้าวไทย

วันนี้ (25 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมอาคาร 30 มหาวิทยาลัยราชภัฎสุรินทร์ กรมการค้าต่างประเทศ (คต.) กระทรวงพาณิชย์ และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เปิดเวทีสาธารณะรับฟังความคิดเห็น กรณี การเปิดตลาดข้าวภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน (ATFA) ครั้งที่ 4 โดย มีเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ,ผู้ประกอบการค้าข้าว โรงสีข้าว,โรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้ข้าวเป็นวัตถุดิบ จากพื้นที่ 10 จังหวัดในภาคอีสานตอนล่าง เข้าร่วมแสดงความเห็นกว่า 200 คน

นางดวงพร รอดพยาธิ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเผยว่า การเปิดรับความเห็นครั้งนี้ เนื่องจากว่ากลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน ได้ตกลงให้มีการจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน หรือ ATFA ( ASEAN Fee Trade Area) ขึ้น ประเทศไทยในฐานะเป็นสมาชิก ATFA มีพันธกรณีที่ต้องลดภาษี และยกเลิกมาตรการโควตาภาษี สินค้าข้าวและสินค้าเกษตรอื่นๆ ซึ่งได้ดำเนินการลดภาษีมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2536 และมีกำหนดจะต้องยกเลิกโควตานำเข้าและลดภาษีเหลือร้อยละ 0 ในตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 นี้ ซึ่งการปฏิบัติตามพันธกรณีที่ผูกพันไว้ถือเป็นสิ่งสำคัญและเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับคู่เจรจาของไทยรวมถึงเป็นการสร้างความเชื่อถือของไทยในภูมิภาคอาเซียนด้วย

ประเทศไทยในฐานะเป็นผู้ส่งออกข้าวมากเป็นอันดับ 1 ของโลก ได้ประโยชน์จากการเปิดตลาดการค้าข้าวตามพันธกรณีและ เกิดผลกระทบน้อยที่สุด กระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้ กรมการค้าต่างประเทศร่วมหารือกับหน่วยงานราชการและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ในการพิจารณาหามาตรการไว้รองรับ เพื่อบริหารจัดการข้าว การนำเข้าข้าวและแนวทางปฏิบัติ ซึ่งมีเป้าหมายในการจัดเวทีสัมมนา คือ การรักษามาตรฐานคุณภาพข้าวไทย คุ้มครองสุขภาพอนามัยของผู้บริโภคข้าวไทย เพื่อหาแนวทางป้องกันการระบาดของโรคและศัตรูข้าว ป้องการกันการนำเข้าข้าวแบบสวมสิทธิ์ในโครงการแทรกแซงของรัฐบาล และป้องกันการนำเข้าข้าวที่มีการตัดแต่งทางพันธุกรรม (GMOs)

ทั้งนี้เพื่อให้การบริหารงานข้าวมีความโปร่งใส และให้การตอบสนองต่อภาคประชาสังคม ได้อย่างทั่วถึง จึงมีการจัดเวทีเสวนาสาธารณะให้ประชาชนทุกภาคส่วนได้ร่วมกันแสดงความเห็นและเสนอแนะข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการเปิดตลาดการค้าข้าวภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน(ATFA) ซึ่งข้อมูลที่ได้จากเวทีประชาคมในครั้งนี้ จะนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) และ คณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อกำหนดแนวทางมาตรการเปิดตลาดการค้าข้าวตามพันธกรณี ATFA รวมทั้งเพื่อออกเป็นกฎระเบียบ ข้อบังคับ ให้มีผลบังคับใช้ได้ทันในวันที่ 1 ม.ค. 2553 นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการเปิดเวทีสาธารณะรับฟังความคิดเห็นของเกษตรกร ผู้ประกอบการโรงสีข้าว ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่ใช้ข้าวเป็นวัตถุดิบ จาก 10 จังหวัดภาคอีสานตอนล่างวันนี้เป็นไปอย่างคึกคัก ทุกฝ่ายต่างเป็นหวงเรื่องการนำเข้าข้าว จากกลุ่มประเทศอาเซียน โดยเฉพาะคุณภาพของข้าวที่ไม่ได้มาตรฐานสู้ข้าวไทยไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวหอมมะลิ ซึ่งข้าวหอมมะลิของไทยมีคุณภาพสูง เป็นข้าวที่สร้างรายได้และสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยเป็นอย่างมาก

ผู้เข้าร่วมสัมมนาจึงได้เสนอแนะให้มีการนำเข้าข้าว ที่กำหนดเป็นลักษณะเฉพาะ เช่น นำเข้าเฉพาะข้าวที่ไทยยังมีการปลูกน้อย หรือนำเข้าที่เป็นข้าวปลาย ข้าวหัก และให้ระมัดระวังในการป้องกันการสวมสิทธิ์หรือการลักลอบนำเข้าข้าวคุณภาพต่ำ และข้าวติดเชื้อโรค -ศัตรูข้าวต้องระวังเป็นอย่างอย่างยิ่ง ที่สำคัญรัฐบาลต้องใช้มาตรการที่เข้มงวดในการนำข้าวเข้าประเทศเพราะจะเป็นการทำลายข้าวไทย






กำลังโหลดความคิดเห็น