พิษณุโลก - มทภ.3 ชี้ศึก “พม่า-กะเหรี่ยงKNU” ไม่ยึดเยื้อ การสู้รบจะจบสิ้นภายในเดือนนี้ แจ้งจังหวัดตากและทหารพรานที่ 35 เตรียมพื้นที่หลบภัยคนไทย ยืนยันไม่มีกะเหรี่ยง-ชายฉกรรจ์ที่เป็นลูกหาบ/ทหารหนีเข้าฝั่งไทย
วันนี้ (15 มิ.ย.) พล.ท.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน แม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธานในการประชุมสรุปผลการปฏิบัติงานด้านยาเสพติดตามยุทธศาสตร์ 5 รั้ง ห้วง 3 เดือน (เมษายน-มิถุนายน) ใน 17 จังหวัดภาคเหนือ ว่า ผลการปราบปรามยาเสพติดเข้าเป้าเป็นไปตามแผน ยาบ้าหายากขึ้นจับกุมน้อยลง ในห้วงต่อไปยังคงเน้น 3 จังหวัดชายแดนเหนือ และ11 อำเภอช่องทางผ่านชายแดน
มทภ.3 เปิดเผยว่า ส่วนการสู้รบระหว่างทหารพม่า-DKBA กับกองกำลังกะเหรี่ยงคริสต์ (KNU) ไม่ได้รุนแรงถึงขั้นแตกหัก กะเหรี่ยงคริสต์ยอมเฉยๆ ไม่ได้ต้องการรบพุ่งแบบเด็ดขาด หรือยึดครองพื้นที่แต่เป็นการรบประชิด สำหรับการล่าถอยของกองกำลังกะเหรี่ยง KNU ไปยังตอนเหนือนั้น อาจมีเป้าหมายเพื่อรวมกำลังใหม่
“เสาร์-อาทิตย์ ที่ผ่านมา ผมได้ไปตรวจดูตามแนวชายแดนไทย-พม่า อ.ท่าสองยาง จ.ตาก คนไทยก็ไม่ได้กลัวต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งสถานการณ์โดยรวมสงบเรียบร้อยดี ลูกระเบิดไม่ได้ลงฝั่งไทยอีก และการสู้รบครั้งนี้ไม่น่ายึดเยื้อ คาดว่าจะจบสิ้นภายในเดือนนี้หากทหารพม่าและดีเคบีเอ ถอย ก็เชื่อว่า ชาวพม่าที่เป็นกลุ่มผู้ลี้ภัยสงครามจะกลับประเทศพม่าเอง ปัจจุบันผู้ลี้ภัยสงครามได้พักพิงบริเวณพื้นที่จัดเตรียมไว้เรียบร้อย เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน”แม่ทัพภาค3 กล่าว
พล.ท.ทนงศักดิ์ กล่าวอีกว่า คนไทยที่อาศัยอยู่แนวชายแดนที่อาจได้รับผลกระทบ ก็ได้สั่งการจังหวัดและทหารพรานที่ 35 ปรับพื้นที่หลบภัยให้ปลอดภัย ส่วนผู้ลี้ภัยยังอยู่ในระดับ 2,800 คน ไม่เกิน 3,000 คน กระจายในพื้นที่พักพิง ส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้หญิงไม่มีผู้ชายที่คาดว่า เป็นทหารหรือลูกหาบในการสู้รบ หนีเข้ามาฝั่งไทยปะปนในศูนย์พักพิงอย่างแน่นอน