ตาก – ทัพภาค 3 จัดซ้อมแผนอพยพคนไทยหนีผลกระทบ “พม่า-DKBA” ถล่ม KNU มทภ.3 รับทางการพม่าแจ้งผ่าน TBC เดินหน้าปราบกะเหรี่ยงคริสต์ให้เสร็จภายในเดือนนี้
รายงานข่าวจากจังหวัดตาก แจ้งถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-พม่า ตรงข้าม อ.ท่าสองยาง ที่มีการสุ้รบระหว่างกองกำลังทหารพม่าที่ร่วมกับกะเหรี่ยงพุทธ (DKBA) เปิดฉากโจมตีฐานที่มั่นกะเหรี่ยงคริสต์ (KNU) อย่างต่อเนื่องว่า ล่าสุดได้เกิดการยิงอาวุธปืนหนัก ปืน ค.60 และ ค.81 ใส่กัน โดยทหาร KNU เปิดฉากยิงก่อนในช่วงระหว่างที่ทหารพม่ากำลังรับประทานอาหารเช้า เมื่อวานนี้ (13 มิ.ย.) ซึ่งยังไม่มีรายงานความเสียหาย อย่างไรก็ตามทหารพม่าได้ยิงตอบโต้และใช้ยุทธการเดียวกันคือไม่เปิดโอกาสให้ทหาร KNU ได้รับประทานอาหารเช้าเช่นกัน โดยทหารทั้ง 2 ฝ่าย ได้พยายามยิงก่อกวนซึ่งกันและกันตลอดเวลา
ขณะที่ในช่วงเย็นวันเดียวกัน พล.ท.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน แม่ทัพภาคที่ 3 พร้อมด้วยคณะประกอบด้วย นายทหารฝ่ายเสนาธิการ-ฝ่ายกำลังรบ จากกองทัพภาค 3 และ พ.อ.ผดุง ยิ่งไพบูลย์สุข ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 แม่สอด -พ.อ.นพดล วัชรจิตรบวร ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 ได้เดินทางไปตรวจสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนระหว่างทหารพม่า (SPDC) กับชนกลุ่มน้อย KNU เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ และตรวจเยี่ยม กำลังพลที่ประจำการชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.ท่าสองยาง จ.ตาก และดูการซ้อมแผนอพยพราษฎรไทยทั้งหมดกว่า 500 คน ที่อาศัยอยู่บ้านแม่สลิดหลวง หมู่ที่ 2 ต.แม่สอง อ.ท่าสองยาง
โดยมีการจำลองสถานการณ์ฉุกเฉิน และให้ราษฎรออกมาจากหมู่บ้านแม่สลิดหลวงไปอยู่ปากทางเข้าหมู่บ้าน และมีเจ้าหน้าที่ทหาร-ฝ่ายปกครอง ไปรับขึ้นรถยนต์ที่จัดไว้ให้ พร้อมให้แกนนำราษฎรไทย เชื้อสายกะเหรี่ยงใช้ภาษาท้องถิ่น-พม่า-กะเหรี่ยง รวมทั้งภาษาไทยพื้นบ้าน ประกาศให้ราษฎรที่หนีมาไปรวมกลุ่ม ทยอยขึ้นรถยนต์ที่ทาง ฉก.ร.4 และ ทหารพราน จัดไว้ให้ และนำไปส่งที่บริเวณเส้นทางสายบ้านแม่สลดหลวง กับ บ้านแม่ละเมิง ห่างจากบ้านแม่สลิดหลวงประมาณ 1-2 กิโลเมตร
แม่ทัพภาค 3 กล่าวว่า ตนเดินทางมาตรวจสถานการณ์ชายแดนไทย-พม่า เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ และซักซ้อมแผนอพยพประชาชนคนไทยที่อยู่ตามแนวชายแดนริมแม่น้ำเมยตามแผนที่ได้วางไว้แล้วโดยจำลองจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้น แต่การอพยพราษฎรไทยเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
สำหรับสถานการณการสู้รบนั้นไม่น่ายืดเยื้อ เพราะอำนาจกำลังรบของฝ่ายกะเหรี่ยง KNU น้อยกว่า สุดท้ายต้องหลบหนี และบริเวณตรงข้ามบ้านแม่สลิดหลวงไม่น่ามีอะไรรุนแรงแล้ว ขณะที่ฝ่ายไทยกับฝ่ายพม่าได้ประสานกันผ่านช่องทางคณะกรรมการชายแดนไทย-พม่า ระดับท้องถิ่น หรือ TBC ซึ่งทางพม่าเกรงว่าจะมีการเข้าใจผิดในสถานการณ์สู้รบในฝั่งพม่า แต่ฝ่ายไทยเห็นว่า เป็นเรื่องภายในของพม่า
ส่วนผู้ลี้ภัยสัญชาติพม่า แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวย้ำว่า ต้องช่วยเหลือต่อไป และคงไม่ถึงขั้นส่งเข้าพื้นที่พักพิงผู้ลี้ภัยสงครามที่อยู่ เพราะหากสถานการณ์สงบ ผู้อพยพต้องกลับไปฝั่งพม่า
“พม่าได้ประสานผ่าน TBC ว่า จะปราบ KNU ให้เสร็จภายในเดือนนี้ และไทยเองก็แจ้งกลับไปว่า จะไม่ยุ่งเรื่องภายในพม่า แต่การวางกำลังและรักษาอธิปไตยเป็นเรื่องที่ทหารไทยต้องดูแลประชาชนและให้การช่วยเหลือผู้อพยพตามหลักสิทธิมนุษยชน”
แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวอีกว่า สำหรับผู้อพยพที่เข้ามาหลบหนีภัยสงครามนั้น มีอยู่ประมาณ 2,900 คน และมีคนไทยที่อยู่หมู่บ้านชายแดนหนีไปอยู่ที่ปลอดภัยประมาณ 600 คน ซึ่งหากสถานการณ์สงบก็จะต้องให้ผู้อพยพกลับไปยังบ้านเมืองของตัวเอง ซึ่งผู้อพยพส่วนใหญ่ก็อยากจะกลับบ้านเพราะมีการทำไร่-นา และต้องการไปดูแลบ้านของตัวเอง
รายงานข่าวแจ้งว่า ล่าสุด ทหารรัฐบาลพม่าที่สนธิกำลังกับ DKBA ได้ยิงโจมตีและใช้กำลังทหารราบเข้ายึดฐานที่มั่นของฝ่าย KNU ตรงข้ามบ้านแม่สอดสลิดหลวง ได้อีก 1 ฐาน และฝ่ายพม่ายังได้รังคำสั่งให้ เข้าโจมตีฐานที่มั่นแห่งอื่นๆ ที่ยังเหลืออยู่ให้หมดสิ้น