ตาก - การสู้รบระหว่างทหารพม่า-กะเหรี่ยงพุทธ ที่ร่วมกันโจมตีฐานที่มั่นกะเหรี่ยงคริสต์ตรงข้ามชายแดน จ.ตาก ยังคงทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีระเบิดตกหน้าโรงเรียนฝั่งไทยจนต้องปิด หวั่นนักเรียนได้รับอันตราย ขณะที่โรงพยาบาลเมียวดีรับทหารบาดเจ็บล้น แม่ทัพภาคที่ 3 ตรวจชายแดนซ้ำ เฝ้าระวังสถานการณ์และดูผู้อพยพ พร้อมซ้อมแผนอพยพ
แหล่งข่าวจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 แม่สอด (ฉก.ร.4) แจ้งว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ (12 มิ.ย.) พล.ท.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน แม่ทัพภาคที่ 3 จะเดินทางลงพื้นที่มาตรวจสถานการณ์ชายแดนไทย-พม่า ที่ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก เพื่อตรวจสถานการณ์การสู้รบที่รุนแรงขึ้น และดูผู้อพยพและสร้างความมั่นใจให้ราษฎรไทยที่อาศัยอยู่หมู่บ้านชายแดน รวมทั้งจะมีการซักซ้อมแผนอพยพ หากเกิดความรุนแรง นอกจากนี้ยังจะมีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษจากการแพร่โรคระบาดจากผู้อพยพสู่คนไทย ทั้งไข้มาลาเรีย ไข้เลือดออก โรคเท้าช้าง จนถึงไข้หวัด 2009 ด้วย
ขณะที่ พ.อ.นพดล วัชรจิตรบวร ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 ได้นำกำลังทหารพรานร่วมกับทหารจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 (ฉก.ร.4 )เข้าทำกู้และทำลายจรวด RPG 7 โดยการนำระเบิดและยางรถยนต์เข้าวาง เพื่อทำลายระเบิดทิ้ง ซึ่งระเบิดดังกล่าวตกลงมาอยู่ริมถนนสายแม่สะเรียง-ท่าสองยาง หลักกิโลเมตรที่ 122 เยื้องโรงเรียนบ้านแม่สะหลิด ต.แม่สอง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.52 ที่ผ่านมา หลังจากที่กองกำลังกะเหรี่ยงพุทธ DKBA กองพลที่ 999 และกำลังทหารพม่าเคลื่อนเร็วที่ 417 เข้าโจมตีฐานที่มั่นสำคัญทางทหารของกองพลที่ 7 กองกำลังกะเหรี่ยง KNU ซึ่งมีฐานที่ตั้งบริเวณตรงข้าม ต.แม่สอง อ.ท่าสองยาง อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ทหารต้องแจ้งให้ทางหน่วยงานทางการศึกษา ปิดโรงเรียนอย่างน้อย 2 แห่ง ที่อยู่ใกล้ชายแดน ที่ตำบลแม่สอง เพื่อความปลอดภัยให้กับนักเรียน-ครูและประชาชน เพราะมีกระสุนปืนหนักมาตกฝั่งไทยใกล้โรงเรียน และมีแผนเคลื่อนย้ายผู้อพยพและราษฎรไทย ออกนอกพื้นที่อันตรายจากการสู้รบด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า ทหารพม่าและ DKBA ยังคงมีการยิงกระสุนปืน ค.60 และ ค.81 อย่างต่อเนื่อง สามารถได้ยินเสียงชัดเจนได้จากฝั่งไทย ซึ่งมีรายงานว่า การโจมตีอย่างหนักของฝ่ายรัฐบาลพม่า ทำให้ทหารสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงอิสระ KNUได้รับบาดเจ็บเพิ่มอีก 2 นาย ทหารกะเหรี่ยงพุทธบาดเจ็บอย่างน้อย 4 นาย
เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงไทยกล่าวว่า ขณะนี้ที่บริเวณโรงพยาบาลในจังหวัดเมียวดี ไม่สามารถรับผู้ป่วยได้อีก เนื่องจากมีทหารบาดเจ็บเข้าทำการรักษามากกว่า 50 คน
ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองไทยอำเภอท่าสองยาง จ.ตาก และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่แนวชายแดนไทย-พม่า ต่างออกสำรวจผู้ลี้ภัยจากการสู้รบ ที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนริมฝั่งแม่น้ำเมย และตามพื้นที่ป่าบริเวณบ้านสลิด บ้านหนองบัว ตำบลแม่สอง และบ้านทุ่งถ้ำ ตำบลแม่อุสุ รวมทั้งพื้นที่อื่นๆ หลายแห่ง เพื่อหาทางให้ไปรวมกันในจุดที่ควบคุมได้ง่าย ซึ่งมีผู้ลี้ภัยชาวกะเหรี่ยง สัญชาติพม่า กว่า 2,000 คน ยังคงกระจัดกระจายอยู่ ขณะเดียวกันองค์กรพัฒนาเอกชน และเจ้าหน้าที่ UNHCR มีการนำสิ่งของ อาหาร ไปให้ความช่วยเหลือแล้ว
อย่างไรก็ดี หน่วยงานต่างๆ เป็นห่วงผู้ลี้ภัยที่อาศัยอยู่บริเวณริมแม่น้ำเมย เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตรายจากกระสุนปืนใหญ่ได้ จึงต้องการให้ย้ายลึกเข้ามาในเขตไทยมากขึ้น