ชาวบ้านมาบตาพุดค้านการก่อสร้างท่าเทียบเรือ - คลังผลิตภัณฑ์เหลวของพีทีทีแทงค์

ระยอง - ชาวบ้านค้านสร้างท่าเทียบเรือ- คลังผลิตภัณฑ์เหลว ของ พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล รองรับอุตสาหกรรมปิโตรเคมีขั้นที่ 3

วันนี้ ( 12 มิ.ย.52) บริษัท พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด นำโดยนายรุจ สุวรรณเสวก หน.หน่วยวิศวกรรม นายสมศักดิ์ ทองแก้ว วิศวกรผู้เชี่ยวชาญ และ นายพิพัฒน์ ทรงอักษร พนักงานรักษาความปลอดภัย เชิญชาวบ้านชุมชนกรอกยายชา ชุมชนตากวน-อ่าวประดู่ กลุ่มประมงเรือ แสงเงิน และกลุ่มประมงปากคลองตากวนและอ่าวประดู่ เข้าร่วมรับฟังการชี้แจงกรณีบริษัทฯจะดำเนินการก่อสร้างท่าเทียบเรือและคลังผลิตภัณฑ์เหลว ตามแผนแม่บทอุตสาหกรรมปิโตรเคมีขั้นที่ 3 ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมืองระยอง ที่บริเวณโรงเรียนวัดตากวน ต.มาบตาพุด มีชาวบ้านมาร่วมรับฟังจำนวน 40 คน

ตัวแทนบริษัทฯ กล่าวว่าจากการประเมินขีดความสามารถท่าเทียบเรือในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ไม่สามารถรองรับความต้องการได้อย่างเพียงพอ จึงมีความจำเป็นต้องสร้างท่าเทียบเรือและคลังผลิตภัณฑ์เหลว ในการสนับสนุนการขยายตัวของธุรกิจปิโตรเคมี คลังผลิตภัณฑ์เหลวมี 6 ชนิดประกอบด้วย แอมโมเนีย โพรพิลีน แอลพีจี อะคริโลไนไตรส์ เมทิล เมตาครีเลท และกรดซัลฟูริก

ส่วนท่าเทียบเรือสามารถรองรับเรือที่มีขนาดสูงสุด 60,000 เดทเวทตัน กินน้ำลึก 13.2 เมตร ร่องน้ำมีความลึก 12.5 เมตรท่ามีความกว้างประมาณ 20 เมตร ความยาวหน้าท่า 200 เมตร สามารถจอดเรือได้ทั้งหมดประมาณ 320 เมตร ท่าเรือแบ่งออกเป็น 2 ส่วน รองรับเรือที่มีขนาดสูงสุดได้ 60,000 เดทเวทตัน และรองรับเรือที่มีขนาด 5,000 เดทเวทตัน สามารถบริการขนถ่ายผลิตภัณฑ์เหลวระหว่างเรือเดินทะเลและท่อส่งสารของโรงงาน

นายน้อย ใจตั้ง ชาวบ้าน ชุมชนอ่าวประดู่ ผู้ร่วมฟ้องคดีศาลปกครองประกาศพื้นที่มาบตาพุดเป็นเขตควบคุมมลพิษ กล่าวว่า การชี้แจงในครั้งนี้ มีแต่เป็นเรื่องที่ดีทั้งนั้น ไม่มีผลกระทบต่อชุมชน พร้อมทั้งยังอ้างอยู่ห่างจากฝั่งไปในทะเลและห่างจากชุมชน การชี้แจงวันนี้มีชาวบ้านมารับฟังจำนวนน้อยมาก อีกทั้งการประชุมชี้แจงกระทำไม่ค่อยโปร่งใส ควรจัดสถานที่ให้กว้างขวาง เชิญชาวบ้านมาร่วมฟังและแสดงความคิดเห็นให้มากกว่านี้ อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่าโครงการดังกล่าวต้องมีผลกระทบแน่นอน บางคนกล่าวว่าให้ระงับโครงการไว้ก่อนรอแผนลดและขจัดมลพิษ ที่จังหวัดกำลังดำเนินการอยู่