xs
xsm
sm
md
lg

เครือข่าย ปชช.ตะวันออกย้ำผู้ฟ้องคดีต้องมีส่วนร่วมทำแผนลดมลพิษ‏

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุทธิ  อัชฌาศัย  ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก
ระยอง - เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก เน้นย้ำผู้ฟ้องคดีต้องมีส่วนร่วมการจัดทำแผนลดและขจัดมลพิษ

วันนี้ (12 พ.ค.) นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก เผยว่า หลังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ลงนามประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ กำหนดให้ท้องที่เขตตำบลมาบตาพุด ตำบลห้วยโป่ง ตำบลเนินพระ และตำบลทับมา อำเภอเมืองระยอง ทั้งตำบล ตำบลมาบข่า อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง ทั้งตำบลและตำบลบ้านฉาง อำเภอบ้านฉาง ทั้งตำบล เป็นเขตควบคุมมลพิษเพื่อดำเนินการควบคุม ลด และขจัดมลพิษ

นายสุทธิกล่าวว่า เทศบาลเมืองมาบตาพุด เทศบาลตำบลเนินพระ เทศบาลตำบลทับมา เทศบาลตำบลมาบข่าและเทศบาลเมืองบ้านฉาง ต้องเป็นเจ้าภาพหลักในการจัดทำแผน ลด และขจัดมลพิษ ร่วมกับจังหวัดแต่งตั้งบุคลากรและนักวิชาการที่มาจากทุกภาคส่วน รวมทั้งภาคเอกชนผู้ฟ้องคดี รวมทั้งภาคเอกชนที่ไม่เห็นด้วยกับการประกาศเขตควบคุมมลพิษ และสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย มาร่วมจัดทำแผนให้เป็นที่ยอมรับจากทุกฝ่าย หลังแต่งตั้งคณะทำงานต้องรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน

กรณีการเฝ้าศึกษาของเครือข่ายธรรมมาภิบาล สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย จะเห็นว่าแผนลดและขจัดมลพิษปี 2550 ที่มีการร่างจัดทำที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด โดยไม่มีส่วนร่วมจากภาคเอกชน ดังนั้นการร่างฉบับนี้ต้องมีภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมน่าจะเป็นฉบับร่างที่สมบูรณ์ ที่ผ่านมา นายสยุมพร ลิ่มไทย ผวจ.ระยอง ยังไม่เคยเชิญเข้าร่วมประชุมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่อย่างใด ผู้ฟ้องคดีทั้ง 27 ราย ต้องมีส่วนร่วมเป็นคณะกรรมการจัดทำแผนด้วย ในวันเดียวกันนี้จะเข้าพบผวจ.ระยองที่ศูนย์ราชการฯ

นายสุทธิกล่าวต่อว่า ในวันที่ 16 พฤษภาคมนี้ สมาคมนักข่าว จ.ระยอง จะจัดเสวนา โดยใช้หัวข้อในการเสวนาว่า ผลกระทบอิสเทิร์นซีบอร์ดและชาวระยอง หลังประกาศเขตควบคุมมลพิษ โดยเชิญ นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และคณะ มาร่วมเสวนา ทำให้เกิดความสงสัยและตั้งคำถามรัฐมนตรีว่า เรื่องการจัดทำแผน ลด และขจัดมลพิษ ไม่ใช่หน้าที่ของท่าน เพราะท่านต้องเป็นผู้กำกับให้อุตสาหกรรม อยู่ในกฎระเบียบของกฎหมาย การจัดเสวนาครั้งนี้มันไม่ตรงกับประเด็น และขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันตรวจสอบว่าผู้เข้าร่วมเสวนาเป็นคนระยองหรือเป็นคนมาจากที่อื่น ท้ายสุดมันก็จะไม่เกิดประโยชน์กับชาวระยองอย่างแท้จริง
กำลังโหลดความคิดเห็น