xs
xsm
sm
md
lg

ไทย-ลาว-เวียดนาม เปิดเดินรถขนส่งสู่เส้นทางระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มุกดาหาร-คณะผู้แทนไทย ร่วมเปิดการเดินรถบรรทุก ไทย-ลาว-เวียดนาม เริ่มใช้ความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร ณ จุดผ่านแดน มุกดาหาร-สะหวันนะเขต และจุดผ่านแดนสะหวันนะเขต-ลาวบาว โดยกำหนดพิธีเปิดการเดินรถบรรทุกระหว่างไทย-ลาว-เวียดนาม พร้อมกันทั้ง 3 ประเทศ

รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันพรุ่งนี้ (11 มิ.ย.) เวลา 09.00 น. คณะผู้แทนไทยและจังหวัดมุกดาหาร ได้ร่วมกันทำพิธีเปิดการเดินรถบรรทุกระหว่างประเทศไทย-ลาว-เวียดนาม โดยมี นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานฝ่ายไทย โดยได้มีการกำหนดขั้นตอน กิจกรรม ตลอดจนพิธีการต่างๆ ในพิธีเปิด ซึ่งกำหนดในวันเดียวกัน ทั้ง 3 จุด คือที่ด่านพรมแดนมุกดาหาร สะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 มุกดาหาร-สะหวันนะเขต ด่านพรมแดนสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และด่านพรมแดนลาวบาว สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยจะมีพิธีเปิดหลักอยู่ ณ ด่านพรมแดนสะหวันนะเขต ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของทั้ง 3 ประเทศร่วมพิธีเปิด

นางพนอม พวงสมบัติ ขนส่งจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า การเดินรถบรรทุกระหว่าง 3 ประเทศ คือ ไทย ลาว และเวียดนาม เกิดขึ้นโดยการผลักดันของธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือ ADB ที่ต้องการให้มีการขนส่งข้ามพรมแดนในประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ดังนั้นจึงได้มีการลงนามความเข้าใจในการเริ่มใช้ความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร ณ จุดผ่านแดนมุกดาหาร-สะหวันนะเขต และจุดผ่านแดนสะหวันนะเขต-ลาวบาว เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2550 ที่ผ่านมา

ด้าน นายไพศาล ชื่นจิต นายด่านศุลกากรมุกดาหารกล่าวว่า สำหรับพิธีเปิดการเดินรถบรรทุกระหว่าง 3 ประเทศ ที่มีขึ้นในวันที่ 11 มิถุนายน 2552 ณ ด่านพรมแดนจังหวัดมุกดาหาร นั้น ในพิธีการ รถบรรทุกของประเทศไทย จะเดินทางไปยังแขวงสะหวันนะเขต ขณะเดียวกันประเทศไทยจะรอรับรถบรรทุก จากประเทศเวียดนามและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การเปิดเดินรถขนส่ง ระหว่างไทย-ลาว-เวียดนาม ในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงตามแนวเส้นทางเศรษฐกิจ ตะวันออก- ตะวันตก ทั้งสามฝ่ายเห็นชอบให้มีการเดินรถที่ใช้เพื่อการพาณิชย์ประเทศละ 400 คัน

การเปิดเดินรถในครั้งนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าไทยไปยังเวียดนาม โดยไม่ต้องมีการขนถ่าย ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนในการขนส่ง และจะเป็นส่วนสนับสนุนให้การพัฒนาเศรษฐกิจภายในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GREATER MEKONG SUbREGION : GMS) ขยายตัวเพิ่มมากขึ้นต่อไปในอนาคต
กำลังโหลดความคิดเห็น