ศรีสะเกษ - พ่อค้าชายแดนศรีสะเกษ เผย เขมรดึงดันสร้างแนวรั้ว-ที่พักอาศัยกั้นเขตแดนบริเวณตลาดด่าน “ช่องสะงำ” อ.ภูสิงห์ ละเมิดข้อตกลงและไม่สนคำทักท้วงไทย ทั้งที่เป็นพื้นที่พาทยังไม่ปักปันเขตแดน จี้ รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาเจรจาสำรวจปักปันเขตแดนโดยด่วน แฉ กัมพูชาใช้กลอุบายให้ชาวเขมรบุกแผ้วถางป่าเข้ายึดครองเป็นที่ทำกินรุกล้ำอธิปไตยไทยแบบซึมลึก-ตบตาประชาคมโลก
วันนี้ (25 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีฝ่ายประเทศกัมพูชาได้ดำเนินการก่อสร้างแนวรั้วและที่พักอาศัยให้กับชาวกัมพูชา ที่ประกอบอาชีพค้าขายและอาศัยอยู่บริเวณตลาดชายแดนช่องสะงำ ด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ตั้งแต่เดือน ม.ค.เป็นต้นมา ทั้งที่เป็นพื้นที่พิพาทยังไม่มีการปักปันเขตแดนอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างไทย-กัมพูชา ปี 2543 ที่ตกลงร่วมกันว่าทั้ง 2 ประเทศจะไม่รุกล้ำ หรือก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างใดๆ ในพื้นที่พิพาทจนกว่าจะเจรจาปักปันเขตแดนแล้วเสร็จ นั้น
นายหัตถชัย เพ็งแจ่ม ประธานชมรมการค้าและการท่องเที่ยวช่องสะงำ เปิดเผยว่า เรื่องนี้ ทราบว่าได้อยู่ในสายตาของฝ่ายข่าวด้านความมั่นคงฝ่ายไทยมาโดยตลอด และได้มีการทักท้วงไปยังผู้บริหารทั้งในระดับจังหวัดและผู้บริหารระดับสูงของประทศกัมพูชา แต่ฝ่ายกัมพูชาเองกลับไม่สนใจ และได้ทำการละเมิดข้อตกลงดังกล่าว ดำเนินการก่อสร้างแนวรั้วขึ้นเหมือนเป็นการประกาศเขตแดนของตัวอย่างชัดเจน
โครงการก่อสร้างแนวรั้วสังกะสีดังกล่าว ได้เคยถูกระงับการก่อสร้างไปชั่วคราว หลังจากมีการทักท้วงจากฝ่ายความมั่นคงของไทยไปเมื่อวันที่ 25 ม.ค.2552 ที่ผ่านมา ต่อมาโครงการได้ดำเนินการก่อสร้างต่ออีกตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยทางฝ่ายกัมพูชา อ้างว่า ได้เจรจาตกลงกับผู้บังคับบัญชาและนายทหารระดับสูงของฝ่ายไทยแล้ว
“ขณะนี้โครงการก่อสร้างแนวรั้วของฝ่ายกัมพูชาได้ดำเนินการเสร็จแล้ว โดยเป็นลักษณะแนวรั้วสังกะสีและแผ่นเหล็กยาวไปตามแนวรั้วมีสภาพแข็งแรง ทนทาน สามารถป้องกันบุคคล หรือสัตว์ใหญ่ไม่ให้สามารถเข้าออกได้อย่างสะดวก” นายหัตถชัย กล่าว
นายหัตถชัย กล่าวต่อว่า ขณะนี้รัฐบาลกัมพูชามีนโยบายให้ประชาชนเป็นแนวร่วมในการบุกรุกแผ้วถางป่าไม้ในเขตชายแดนกัมพูชา-ไทย พร้อมอนุญาตให้ประชาชนจับจองเป็นพื้นที่ทำกินและปลูกสร้างที่อยู่อาศัย โดยหวังผลเพื่อต้องการยึดครองพื้นที่บริเวณชายแดนแบบซึมลึก หากรัฐบาลไทยมีคำสั่งให้กองทัพใช้กำลังทหาร ในการผลักดันออกไปก็จะถูกประชาคมโลกประณามแต่หากใช้การเจรจาทางการทูต กัมพูชาก็จะอ้อนขอคะแนนเสียงจากชาวโลก ว่าประชาชนเขามีฐานะยากจน และมีความต้องการพื้นที่อยู่อาศัยและทำกินจึงได้แอบลักลอบบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ และอาจล่วงล้ำอธิปไตยของไทยบ้าง เพราะไม่ทราบแนวเขตที่ชัดเจน พร้อมกับพยายามอ้างว่าเรื่องดังกล่าวรัฐบาลไม่มีส่วนรู้เห็นด้วย ซึ่งจะกลับกลายเป็นว่าทำให้ประชาคมโลกเข้าใจ และเห็นใจกัมพูชามากกว่าประเทศไทย
“ทางออกในเรื่องนี้ รัฐบาลไทยควรเร่งดำเนินการเจรจากับฝ่ายกัมพูชา เพื่อทำการสำรวจปักหลักเขตแดนไทย-กัมพูชา ในจุดที่เป็นพื้นที่พิพาทชายให้แล้วเสร็จโดยด่วนที่สุด เพราะนอกจาก จะเป็นการรักษาอธิปไตยของประเทศแล้ว ยังเป็นการป้องกันการบุกรุกแผ้วถางป่าไม้ที่มีความอุดมสมบูรณ์ตามแนวชายแดน และขอเสนอให้ขึ้นทะเบียนผืนป่าบนเทือกเขาพนมดงรักเป็นมรดกโลกร่วมกันระหว่างไทย-กัมพูชา ต่อไปด้วย” นายหัตถชัย กล่าว