สุราษฎร์ธานี -พันธมิตรฯสุราษฎร์ธานีเดินหน้าต้านค้าปลีกล่ารายชื่อประชาชน 10,000 ชื่อ ยื่นผู้ว่าราชการจังหวัดคัดค้านการขยายตัวของห้างค้าปลีก เชื่อที่มีอยู่มากพอแล้ว ชี้หากผู้ว่าฯไม่ดำเนินการเตรียมยื่นศาลปกครองขอให้ทุกเทศบาล-อบต.ระงับการก่อสร้างชั่วคราว จนกว่าจะมีกฎหมายค้าปลีก-ค้าส่งออกมาบังคับใช้
นายเกียรติศักดิ์ ชาครหัตถการ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจ.สุราษฎร์ธานี ประธานศูนย์ประสานงาน พันธมิตรฯสุราษฎร์ธานี กล่าวถึงความคืบหน้าการคัดค้านการเปิดห้างค้าปลีกในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ว่า ที่ผ่านมาเครือข่ายพันธมิตรฯจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้เดินหน้าให้ความรู้คัดค้านการขยายตัวของห้างค้าปลีกข้ามชาติ อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมองว่า ปัจจุบันนี้มีห้างค้าปลีกเกิดขึ้นเกือบทุกมุมเมือง จึงมองว่าน่าจะมีการจำกัดขอบเขตและจำนวนบ้างเพื่อไม่ให้กระทบต่อร้านค้าของคนไทยในพื้นที่ที่เป็นร้านโชวห่วยอย่างรุนแรง
เครือข่ายพันธมิตรฯมองว่าถึงเวลาแล้วที่ประชาชนควรจะออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการขยายตัวของห้างค้าปลีกข้ามชาติ แม้ว่าบางท่านที่ไม่มีญาติเป็นคนค้าขายหรือไม่มีอาชีพค้าขาย อาจจะคิดว่าไม่เกี่ยวข้อง และมีความรู้สึกว่าห้างค้าปลีกข้ามชาติ ขายของให้ในราคาถูก และไม่จำกัดจำนวน มีความทันสมัยในการให้บริการซึ่งก็เป็นสิ่งที่พวกเราไม่ปฏิเสธ แต่สิ่งเหล่านี้ก็น่าจะมีการจำกัดขอบเขตกันบ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้ขยายสาขาออกไปเรื่อยๆ ถ้าวันหนึ่งไม่มีร้านค้าเล็กๆหลงเหลืออยู่ มีแต่ห้างค้าปลีกข้ามชาติจะมีใครรับรองได้ว่าราคาข้าวของต่างๆจะราคาถูกเช่นนี้ตลอดไป หรือราคาจะสูงขึ้นเพราะเกิดการผูกขาด เป็นธรรมดาคนค้าขายย่อมต้องการกำไรสูงสุดอย่างแน่นอน
นายเกียรติศักดิ์ กล่าวต่อไป ศูนย์ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดสุราษฎร์ธานี เห็นว่าขณะนี้ได้มีการขยายสาขาของห้างค้าปลีกข้ามชาติในจังหวัดสุราษฎร์ธานีมีจำนวนที่มากเพียงพอแล้ว ซึ่งมีทั้งห้างแม็คโคร ห้างบิ๊กซี และห้างโลตัส แต่ห้างค้าปลีกข้ามชาติบางแห่งยังไม่รู้จักความเพียงพอ มีการก่อสร้างขยายสาขาเพิ่มขึ้นไปอย่างไม่มีการจำกัดจำนวน อย่างเช่นใน อ.เกาะสมุย ก็มีแนวทางการก่อสร้างต่อไปอีกแบบต่อเนื่อง
เป็นที่ทราบกันอย่างแน่นอนว่าเมื่อทุนใหญ่ขยายตัวทุนเล็กก็จะหมดไป แล้วสิทธิแห่งความเป็นคนไทยคนหนึ่งจะเลือกทำมาหากิน ประกอบอาชีพค้าขายเล็กๆน้อย เพื่อเลี้ยงดูครอบครัวตามประสาประดามีทำไมไม่มีกฎหมายใดออกมาช่วยเหลือชาวบ้านอย่างพวกเราบ้าง ขนาดสัตวโลกบางชนิดกำลังจะสูญพันธุ์เขายังอนุรักษ์เอาไว้และจัดเป็นสัตว์สงวน แต่ทำไมสังคมไทยไม่อนุรักษ์ที่ทำมาหากินค้าขายเล็กๆ เก็บไว้ให้แก่ชาวบ้านบ้าง หรือคนไทยตัวเล็กๆ มีความสำคัญน้อยกว่าสัตว์ที่กำลังจะสูญพันธุ์ แม่ค้าตามตลาดสดและร้านค้าโชวห่วยเล็กๆ ต้องปิดตัวเองลงไปเรื่อยๆ ทำให้วิถีชีวิตของชาวบ้านตาดำๆต้องเปลี่ยนไป ประสบปัญหามากขึ้นอย่างไม่มีขีดจำกัด ความเดือดร้อนก็เพิ่มขึ้น ตามจำนวนห้างค้าปลีกข้ามชาติที่กำลังเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
ต่อไปก็จะไม่มีแม่ค้าในตลาดสดและร้านโชวห่วยเล็กๆอีกต่อไป วิถีชีวิตของชาวบ้านต้องเปลี่ยนไปแบบไม่มีสิทธิเลือกอาชีพด้วยตัวเอง แต่กลับถูกกำหนดโดยห้างค้าปลีกข้ามชาติที่มีทุนมากกว่า ซึ่งการเปิดร้านค้าขายร้านหนึ่งเป็นสิทธิของประชาชนคนไทยที่ควรจะพึงมี แต่ต้องถูกจำกัดสิทธิด้วยการแข่งขันทางการตลาดที่สู้กันไม่ได้เลย รัฐบาลก็ไม่เร่งออกกฎหมายควบคุมการค้าปลีก - ค้าส่ง แล้วการต่อสู้แบบนี้ ก็คงจะจบลงด้วยการสูญพันธุ์ของวิถีชีวิตค้าขายแบบคนไทย แบบชาวบ้านที่มีเงินทุนเพียงไม่กี่พันบาท ที่ลงทุนค้าขายเล็กๆ น้อยได้ ก็จะหมดไป หรือเรียกว่าสูญพันธุ์เลยก็ว่าได้
นายเกียรติศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากเครือข่ายพันธมิตรฯจังหวัดสุราษฎร์ฯจะให้ความรู้เกี่ยวกับห้างค้าปลีกที่เข้ามาเปิดในพื้นที่แล้ว ขณะนี้ยังได้มีการเปิดให้มีการลงชื่อร่วมคัดค้านการก่อสร้าง และประกอบกิจการค้าปลีกข้ามชาติไม่ให้ขยายสาขาเพิ่มเติม ซึ่งเปิดให้มีการลงชื่อตามจุดต่างๆที่เป็นศูนย์ประสานงานเครือข่ายในแต่ละชุมชน ผู้ที่สนใจจะร่วมลงชื่อคัดค้านก็สามารถที่ลงได้ โดยเครือข่าพันธมิตรฯสุราษฎร์ฯจะรวมรวมรายชื่อให้ได้อย่างน้อย 10,000 ชื่อ ยื่นไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อพิจารณาถึงเรื่องของการขยายตัวของห้างค้าปลีกข้ามชาติว่าควรจะเพียงพอได้แล้วหรือยัง ถ้าหากผู้ว่าราชการจังหวัดไม่มีการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้ เครือข่ายพันธมิตรฯจะยื่นรายชื่อทั้งหมดไปยังศาลปกครองขอให้มีคำสั่งให้ อบต. -เทศบาลในพื้นที่ระงับการก่อสร้างของห้างค้าปลีกออกไปก่อน จนกว่าจะมีกฎหมายเกี่ยวกับการค้าปลีกและค่าส่งออกมาควบคุม