บุรีรัมย์ - เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน บุกงัดตู้เซฟและรื้อค้นโต๊ะพนักงานบัญชีของบริษัท คูโบต้าบุรีรัมย์ หวังขโมยทองหนัก 50 บาท กลับแห้วได้เงินสดไปเพียงกว่าหมื่นบาท หนีลอยนวล เบื้องต้น ตร.มุ่งสอบพนักงานภายในบริษัท และพิมพ์ลายมือไว้ตรวจสอบ
วันนี้ (18 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.กิตติ มูลเมืองแสน พนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีคนร้ายไม่ทราบจำนวนบุกงัดตู้เซฟ ของ บริษัท คูโบต้าบุรีรัมย์ ตั้งอยู่เลขที่ 546 ม.10 ต.อิสาณ อ.เมือง ถนนสายบุรีรัมย์-นางรอง ตรงข้ามห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ
จากนั้น พล.ต.ต.สมบัติ คงพิบูลย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) บุรีรัมย์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.รุทธพล เนาวรัตน์ ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ และเจ้าหน้าที่กองวิทยาการ ได้เดินทางไปตรวจสอบร่องรอยคนร้าย ที่ก่อเหตุบุกเข้าไปงัดตู้เซฟภายในบริษัท คูโบต้า จำหน่ายรถไถนา และเครื่องจักรกลการเกษตรรายใหญ่ของ จ.บุรีรัมย์ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
โดยที่เกิดเหตุพบรั้วลวดหนามของสำนักงานถูกตัด ก่อนคนร้ายจะเข้าไปก่อเหตุงัดตู้เซฟในห้องทำงานภายในบริษัท จนพังเสียหาย แต่ไม่สามารถนำทรัพย์สินที่อยู่ภายในตู้เซฟไปได้ นอกจากนั้น ยังพบว่าคนร้ายได้รื้อค้นโต๊ะพนักงานบัญชีกระจุยกระจาย กวาดเงินสดที่เก็บไว้ในลิ้นชักไปกว่า 1 หมื่นบาท
จากคำให้การของ นางสุดารัตน์ วังแจ่ม ผู้จัดการบริษัท ทราบว่า ขณะเกิดเหตุได้มียามรักษาความปลอดภัย เข้าเวรในช่วงกลางคืนอยู่ 2 คน แต่ทางบริษัทไม่ได้เปิดกล้องวงจรปิดไว้ในช่วงกลางคืน เปิดไว้เฉพาะในช่วงกลางวัน เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยในการทำงานของพนักงานเท่านั้น จึงไม่สามารถจับภาพคนร้ายที่ก่อเหตุได้
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ทางบริษัทได้เก็บทองคำรูปพรรณน้ำหนักกว่า 50 บาท ไว้ในตู้เซฟ เพื่อไว้แจกแถมให้กับลูกค้าที่มาซื้อเครื่องจักรการเกษตรภายในบริษัท ซึ่งอาจมีคนภายในทราบ แต่โชคดีที่ 2 วันที่ผ่านมาได้นำไปฝากไว้ที่ธนาคารแล้ว เหลือไว้ภายในตู้เพียง 1 บาท แต่ก็ไม่สามารถระบุได้ว่า คนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้จะเป็นพนักงานหรือบุคคลภายนอก
ด้าน พ.ต.อ.รุทธพล เนาวรัตน์ ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำพนักงานบริษัท และยามรักษาความปลอดภัย คาดว่า คนร้ายน่าจะก่อเหตุช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น.คืนที่ผ่านมา และจากพฤติกรรมการก่อเหตุ คาดว่า คนร้ายที่บุกเข้ามาก่อเหตุจะมีไม่น้อยกว่า 2 คน และน่าจะรู้ทางหนีทีไล่เป็นอย่างดี ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ในไม่ช้านี้
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.สมบัติ คงพิบูลย์ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.รุทธพล เนาวรัตน์ ผกก.สภ.เมือง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้นำพนักงาน และลูกจ้างภายในบริษัทกว่า 30 คน ไปสอบปากคำ และพิมพ์ลายนิ้วมือ เพื่อเปรียบเทียบกับลายนิ้วมือแฝง ที่พบตามโต๊ะ ตู้เซฟ ในที่เกิดเหตุ เพื่อหาเบาะแสและติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเร่งด่วนต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ได้มีคนร้ายบุกงัดตู้เอทีเอ็ม และ เงินบริจาค ของห้างบิ๊กซี ที่อยู่ตรงข้ามกับบริษัท คูโบต้าบุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้ซึ่งเป็นพนักงานทำความสะอาดในห้างเอง จากกรณีดังกล่าว พล.ต.ต.สมบัติ คงพิบูลย์ ผบก.ภ.จว.จึงได้สั่งการให้ทุก สภ.เข้มงวดเรื่องการก่ออาชญากรรมมากขึ้น เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่ประสบปัญหาภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ จึงทำให้มีกลุ่มมิจฉาชีพเพิ่มมากขึ้น