คนร้ายไม่ทราบจำนวน งัดบ้านอธิบดีกรมการค้าส่งออก แถวตลิ่งชัน ได้เงินสด-สร้อยทอง-นาฬิกายี่ห้อดัง สูญทรัพย์เกือบ 3 แสน อีกทั้งพระเครื่องที่ยังไม่สามารถตีราคาได้ ตำรวจเร่งหาเบาะแสตามจับมาดำเนินคดี พร้อมบอกหมู่บ้านเงียบมาก มีพื้นที่กว้าง กล้องวงจรปิดมีเพียงประตูทางเข้าหมู่บ้านเท่านั้น
จากกรณีที่มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนบุกงัดบ้านพักของ นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ตั้งอยู่เลขที่ 118 หมู่ 7 หมู่บ้านร่มรื่น ถนนบรมราชชนนี แขวงและเขตตลิ่งชัน กทม. ก่อนขโมยทรัพย์สินไปหลายรายการ เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (21 เม.ย.) นั้น
วันนี้ (22 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.ท.สุกิจ อรุณฤกษ์ถวิล รอง ผกก.สส.สน.ตลิ่งชัน เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ร.ต.ต.เอกภณ พุทธิกุล ร้อยเวรเจ้าของคดี ได้เชิญตัว นางพิชญา พจนสุนทร อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของอธิบดีกรมการค้าส่งออก กระทรวงพาณิชย์ มาสอบปากคำเพิ่มเติมแล้วได้ความว่า ปกติที่บ้านหลังดังกล่าวจะมีผู้พักอาศัยอยู่ 3 คน คือ อธิบดีฯ นางพิชญา และลูกสาว ส่วนลูกชายอีกคนขณะนี้กำลังศึกษาต่อที่ต่างประเทศ โดยก่อนเกิดเหตุ นางพิชญาได้ขับรถเก๋งออกไปรับลูกสาวที่ ม.มหิดล ศาลายา ตั้งแต่ช่วงเวลา 14.30 น.แต่ผู้ที่ทราบว่าบ้านโดนยกเค้าเป็นคนแรก คือ อธิบดีฯ ซึ่งกลับมาถึงบ้านเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น.จึงรีบแจ้งให้ตำรวจไปตรวจสอบ
พ.ต.ท.สุกิจ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบหลักฐานในบ้านที่เกิดเหตุ พบว่ามีรอยงัดจากประตูด้านหน้า และลูกบิดประตูด้านใน ส่วนร่องรอยการรื้อค้นพบในห้องนอนของอธิบดีฯ และลูกสาว ซึ่งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เก็บรวบรวมลายนิ้วมือแฝงซึ่งคาดว่าจะเป็นของคนร้ายไปตรวจสอบแล้ว
สำหรับทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปประกอบด้วยสร้อยทองหนัก 2 บาท นาฬิกายี่ห้อดังหลายเรือน อาทิ คาสิโอ, โอเมกา ฯลฯ และเงินสด 10,000 บาท รวมมูลค่าทั้งหมดประมาณ 280,000 บาท ส่วนพระเครื่องอีกหลายรายการ ขณะนี้ยังไม่สามารถตีราคาได้ เนื่องจากอธิบดีฯ ต้องเดินทางไปญี่ปุ่นเมื่อคืนนี้ คงต้องรอให้กลับมาให้รายละเอียดอีกครั้ง คาดว่า น่าจะเป็นช่วงต้นสัปดาห์หน้า
“เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทราบว่าหมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านค่อนข้างเก่าแล้ว และเงียบสงบมาก ที่ป้อม รปภ.ทางเข้าหมู่บ้านมีกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่เพียง 1 จุดเท่านั้น ส่วนภายในหมู่บ้านไม่มีการติดตั้งเอาไว้เลย ประกอบกับพื้นที่ภายในหมู่บ้านก็กว้างใหญ่มาก มีทางเข้าออกหลายทาง มีจุดที่คนร้ายแอบปีนเข้าไปได้หลายจุด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ฝ่ายสืบสวนก็พยายามกระจายกำลังลงพื้นที่ เพื่อหาเบาะแสเกี่ยวกับคนร้ายกลุ่มนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว” พ.ต.ท.สุกิจ กล่าว
