น่าน – ทหารพรานออกลาดตระเวนป่าลึก เก็บเห็ดป่าทำกิน ไม่นานออกอาการเวียนหัว อาเจียน รีบพากันหามส่ง รพ.แพทย์เผยพิษรุนแรงมากทำลายเซลล์ตับจนมีผลทำให้ตับวาย เลือดออกทางจมูก ปาก ถ่ายเป็นเลือด แล้วมีอาการช็อกจนเสียชีวิตได้ใน 1 สัปดาห์
วันนี้ (17 พ.ค.) โรงพยาบาลน่าน อ.เมือง จ.น่าน ได้รับตัวผู้ป่วยซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครทหารพราน อ.เฉลิมพระเกียรติ จำนวน 3 ราย เข้ารักษาเนื่องจากกินเห็ดพิษ มีอาการอาเจียนและท้องเสียอย่างรุนแรง แพทย์รักษาขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว 2 ราย เฝ้าอาการใกล้ชิด 1 ราย
นายแพทย์นิวัตน์ชัย สุจริตจันทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน เปิดเผยว่า อาสาสมัครทหารพราน อ.เฉลิมพระเกียรติ จำนวน 3 รายที่เข้ารักษาครั้งนี้กินเห็ดที่มีลักษณะเหมือนไข่ห่านสีเหลือง โดยนำมาต้มกินในขณะที่ออกลาดตระเวนในป่า เมื่อเย็นวันที่ 12 พ.ค. จนเช้าวันที่ 13 พ.ค. เกิดปวดท้องอย่างรุนแรง อาเจียน พร้อมกับท้องเสียอย่างหนัก จนเพื่อนทหารต้องหามส่ง รพ.เฉลิมพระเกียรติ แต่อาการไม่ดีขึ้นจึงส่งต่อมายังโรงพยาบาลน่าน
โดยมีอาการหนัก 1 ราย คือ นายวรชัย วุฒิ อายุ 33 ปี เพราะรับประทานเห็ดพิษเข้าไปจำนวนมาก และดื่มสุราด้วย เนื่องจากเห็ดดังกล่าวมีพิษทำลายระบบตับ ทำให้ตับอักเสบ ระบบทางเดินอาหาร และมีผลต่อสมอง ยังต้องดูแลอาการอย่างใกล้ชิด
ส่วนอีก 2 ราย ได้แก่ นายผาย สุมทุบ อายุ 59 ปี มีอาการคงที่แล้ว แต่ต้องให้พักฟื้นและให้ระบบร่างกายทำงานอย่างปกติเต็มที่ โดยให้น้ำเกลือแร่เสริมอยู่ พร้อมทั้งให้ดื่มน้ำมากๆ เพื่อถ่ายเอาพิษต่างๆ ออกให้หมด และ นายประยุทธ ปันวาละ อายุ 37 ปี อาการดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งให้กลับไปพักรักษาตัวที่บ้านแล้ว
นายวรชัย วุฒิ หนึ่งในผู้ป่วยกินเห็นพิษกล่าวว่า ตนและทั้งหมดลาดตระเวนในเขตรับผิดชอบ ซึ่งโดยปกติจะพากันเก็บของป่าทำกินซึ่งก็เคยเก็บเห็ดในป่ามาทำกินเป็นประจำ แต่ไม่เป็นอะไร กระทั่งครั้งล่าสุด ได้เก็บเห็ดไข่ห่าน และเห็ดผึ้งที่ขึ้นตามพื้นดิน จากป่าในเขตตำบลขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ มาต้มกิน
หลังจากนั้น ประมาณ 5 ชั่วโมงต่อมา เกิดอาการท้องเสีย คลื่นไส้ น้ำลายเหนียว และอาเจียนออกมา ถูกนำส่งโรงพยาบาล
อย่างไรก็ตาม นายแพทย์ นิวัตน์ชัย สุจริตจันทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน ขอเตือนทหารและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติภารกิจตามแนวชายแดน และประชาชน ว่า ให้ระวังเห็ดพิษ ภัยอร่อยที่มากับหน้าฝน ซึ่งในระยะนี้มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เห็ดหลายชนิดผุดขึ้นมาจากดินตามป่าเขา จำนวนนี้มีหลายชนิดที่ดูไม่ออกว่ามีพิษ ดังนั้นหากไม่รู้จัก ไม่แน่ใจ ไม่รู้แหล่งที่มาอย่านำมากินเด็ดขาด
โดยเฉพาะเห็ดที่สีขาวนวล ลักษณะคล้ายไข่เป็ดไข่ไก่ ที่มาจากชายแดนไทย-ลาว บริเวณ ต.บ่อเกลือใต้ และบริเวณ อ.ปัว อ.เชียงกลาง และ อ.ทุ่งช้าง ซึ่งพบเห็ดชนิดนี้ชุกชุมมากในอำเภอดังกล่าว อีกทั้งเป็นเห็ดที่มีสารพิษร้ายแรง ทำให้ระบบการทำงานของตับและไตล้มเหลวจนเสียชีวิตได้ เห็ดชนิดนี้มีพิษร้ายแรงที่สุด สารพิษที่อยู่ในเห็ดแม้จะนำมาทำให้สุกด้วยความร้อนก็ไม่สามารถสลายพิษได้ และบรรดาคอเหล้าอย่านำเห็ดมาเป็นกับแกล้ม เพราะจะช่วยเสริมฤทธ์ให้แรงขึ้นเพราะอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
