เชียงราย - รองผู้ว่าฯเชียงราย ประกาศเขตภัยพิบัติฉุกเฉินเพิ่มเติมในเขตแม่ลาวกรณีประสบภัยแล้ง ด้าน ปภ.รับห่วงอัคคีภัยที่จะมาพร้อมกับความแล้ง ชี้ในช่วงนี้หลายพื้นที่ประสบเหตุไฟไหม้บ่อยครั้ง เร่งดึง อปท.-ผู้นำชุมชนคุมเข้มการเผาทุกชนิด สกัดปัญหาหมอกควัน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเชียงราย ว่า นายวรชัย อุตตมชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้ออกประกาศเขตภัยพิบัติฉุกเฉินเพิ่มเติมในเขต อ.แม่ลาว กรณีประสบภัยแล้ง เนื่องจากแหล่งกักน้ำไม่เพียงพอ น้ำตามธรรมชาติลดระดับลงและพื้นที่โครงการชลประทาน ไม่สามารถครอบคลุมพื้นที่ได้ทั้งหมด ทำให้เกิดปัญหาขึ้นในพื้นที่หมู่ที่ 1-11 ต.จอมหมอกแก้ว หมู่ที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 11, 12 ต.ป่าก่อดำ หมู่ที่ 1-11 ต.บัวสลี หมู่ที่ 2, 3, 4, 5, 8, 10, 11, 12, 13, 14, 17, 18, 19 ต.ดงมะดะ และหมู่ที่ 1-9 ต.โป่งแพร่
นายณรงค์ อินทร์โส หัวหน้าฝ่ายสงเคราะห์ผู้ประสบภัย สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เชียงราย เปิดเผยว่า พื้นที่ อ.แม่ลาว เป็นพื้นที่แห่งที่ 2 ต่อเนื่องจาก อ.พาน ที่ได้มีการประกาศเขตภัยพิบัติไปก่อนหน้านี้ และจากข้อมูลที่ได้รับรายงานเข้ามา ยังพบว่ามีอำเภออื่นๆ ของจังหวัดเชียงราย ที่มีสภาพปัญหาเรื่องแหล่งน้ำไม่เพียงพออีกมาก อยู่ระหว่างสำรวจยอดตัวเลขที่ชัดเจนทั้งเรื่องจำนวนครัวเรือน และจำนวนพื้นที่กการเกษตรและสัตว์เลี้ยง ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ หากมีข้อมูลที่ครบถ้วน จะได้เร่งประกาศเขตภัยพิบัติเพิ่มเติมอีก
นายณรงค์ กล่าวต่อว่า ภัยแล้งปีนี้คาดว่าจะรุนแรง แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือเรื่องอัคคีภัย ที่จะมาพร้อมกับความแล้ง ซึ่งในระยะนี้หลายพื้นที่ของ จ.เชียงราย เช่น อ.แม่จัน อ.เชียงของ ได้ประสบเหตุอัคคีภัยไฟไหม้บ่อยครั้ง ซึ่งเกิดจากความประมาทจุดก่อกองไฟ โดยมีลมกรรโชกแรงพัดสมทบ ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายกับท้องถิ่นและสภาพแวดล้อม ทาง ปภ.จึงรีบรายงานทางจังหวัด พร้อมกับประกาศเตือนราษฎร ให้เพิ่มความระมัดระวังในเรื่องนี้มากขึ้น
สำหรับแนวทางที่จะนำมาใช้ คือ การส่งเสริมให้ผู้นำชุมชน หรือผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มีส่วนร่วมรับผิดชอบ ในการรณรงค์และสร้างความเข้มแข็งในชุมชนให้เกิดขึ้นมา ต้องใช้เรื่องกฏท้องถิ่นมาดำเนินการกันภายใน หากผู้นำ อปท.และผู้นำชุมชน มีความเข้มแข็ง เอาจริงเอาจัง จัดการกับผู้ฝ่าฝืนทุกรายอย่างเข้มข้นแล้ว ปัญหาเรื่องอัคคีภัย รวมทั้งปัญหาเรื่องหมอกควันที่เกิดจากการเผาขยะเผาป่า จะไม่เกิดขึ้น สภาพชั้นบรรยากาศของ จ.เชียงราย ก็จะไม่เสื่อมเสียไป
ส่วนแม่น้ำโขง ด้าน อ.เชียงของ จ.เชียงราย ก็เริ่มแห้งขอด มองเห็นเกาะแก่งมากมาย แต่ชาวเรือยังเดินเรือหางยาวได้อยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเชียงราย ว่า นายวรชัย อุตตมชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้ออกประกาศเขตภัยพิบัติฉุกเฉินเพิ่มเติมในเขต อ.แม่ลาว กรณีประสบภัยแล้ง เนื่องจากแหล่งกักน้ำไม่เพียงพอ น้ำตามธรรมชาติลดระดับลงและพื้นที่โครงการชลประทาน ไม่สามารถครอบคลุมพื้นที่ได้ทั้งหมด ทำให้เกิดปัญหาขึ้นในพื้นที่หมู่ที่ 1-11 ต.จอมหมอกแก้ว หมู่ที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 11, 12 ต.ป่าก่อดำ หมู่ที่ 1-11 ต.บัวสลี หมู่ที่ 2, 3, 4, 5, 8, 10, 11, 12, 13, 14, 17, 18, 19 ต.ดงมะดะ และหมู่ที่ 1-9 ต.โป่งแพร่
นายณรงค์ อินทร์โส หัวหน้าฝ่ายสงเคราะห์ผู้ประสบภัย สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เชียงราย เปิดเผยว่า พื้นที่ อ.แม่ลาว เป็นพื้นที่แห่งที่ 2 ต่อเนื่องจาก อ.พาน ที่ได้มีการประกาศเขตภัยพิบัติไปก่อนหน้านี้ และจากข้อมูลที่ได้รับรายงานเข้ามา ยังพบว่ามีอำเภออื่นๆ ของจังหวัดเชียงราย ที่มีสภาพปัญหาเรื่องแหล่งน้ำไม่เพียงพออีกมาก อยู่ระหว่างสำรวจยอดตัวเลขที่ชัดเจนทั้งเรื่องจำนวนครัวเรือน และจำนวนพื้นที่กการเกษตรและสัตว์เลี้ยง ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ หากมีข้อมูลที่ครบถ้วน จะได้เร่งประกาศเขตภัยพิบัติเพิ่มเติมอีก
นายณรงค์ กล่าวต่อว่า ภัยแล้งปีนี้คาดว่าจะรุนแรง แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือเรื่องอัคคีภัย ที่จะมาพร้อมกับความแล้ง ซึ่งในระยะนี้หลายพื้นที่ของ จ.เชียงราย เช่น อ.แม่จัน อ.เชียงของ ได้ประสบเหตุอัคคีภัยไฟไหม้บ่อยครั้ง ซึ่งเกิดจากความประมาทจุดก่อกองไฟ โดยมีลมกรรโชกแรงพัดสมทบ ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายกับท้องถิ่นและสภาพแวดล้อม ทาง ปภ.จึงรีบรายงานทางจังหวัด พร้อมกับประกาศเตือนราษฎร ให้เพิ่มความระมัดระวังในเรื่องนี้มากขึ้น
สำหรับแนวทางที่จะนำมาใช้ คือ การส่งเสริมให้ผู้นำชุมชน หรือผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มีส่วนร่วมรับผิดชอบ ในการรณรงค์และสร้างความเข้มแข็งในชุมชนให้เกิดขึ้นมา ต้องใช้เรื่องกฏท้องถิ่นมาดำเนินการกันภายใน หากผู้นำ อปท.และผู้นำชุมชน มีความเข้มแข็ง เอาจริงเอาจัง จัดการกับผู้ฝ่าฝืนทุกรายอย่างเข้มข้นแล้ว ปัญหาเรื่องอัคคีภัย รวมทั้งปัญหาเรื่องหมอกควันที่เกิดจากการเผาขยะเผาป่า จะไม่เกิดขึ้น สภาพชั้นบรรยากาศของ จ.เชียงราย ก็จะไม่เสื่อมเสียไป
ส่วนแม่น้ำโขง ด้าน อ.เชียงของ จ.เชียงราย ก็เริ่มแห้งขอด มองเห็นเกาะแก่งมากมาย แต่ชาวเรือยังเดินเรือหางยาวได้อยู่
