ระยอง -จังหวัดระยองจัด เวทีเสวนา “ ผลกระทบอีสเทิร์นซีบอร์ดอและ ชาวระยอง หลังประกาศเขตควบคุมมลพิษ”
วันนี้( 16 พ.ค.2552) ที่โรงแรมโกลเด้นซิตี้ อ.เมืองระยอง มีการจัดเสวนาเรื่องผลกระทบอีสเทิร์นซีบอร์ดและชาวระยอง หลังประกาศเขตควบคุมมลพิษ โดยมีนายสรยุทธ เพ็ชรตระกูล กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีอุตสาหกรรม พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย อดีตที่ปรึกษา รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสยุมพร ลิ่มไทย ผวจ.ระยอง นายสุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ นายอิทธิพล แจ่มแจ้ง ประธานมูลนิธิกองทุนเพื่อคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมมาบตาพุดและอ.บ้านฉาง และนายวีระพงศ์ ไชยเพิ่ม รอง ผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มีประชาชนกว่า 400 คนเข้าร่วมในการเสวนาครั้งนี้
นายสยุมพร ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่า จ.ระยองเป็นระบบเศรษฐกิจ 3 ขา คือ ภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตรกรรมและภาคการท่องเที่ยว ปัจจุบันระบบเศรษฐกิจเริ่มเป็นขาเดียว คือภาคอุตสาหกรรม ขณะเดียวกันภาคเกษตรกรรมและภาคการท่องเที่ยว เริ่มถดถอยลงไป ซึ่งมีทั้งในผลบวกและลบ การประกาศเขตพื้นที่บางส่วนเป็นเขตควบคุมมลพิษ มี 6 ตำบล 10 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ใน 3 อำเภอ คือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เทศบาลตำบล และองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)
ดังนั้น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องจัดทำแผนลดและขจัดมลพิษ ในพื้นที่ของตนเองที่รับผิดชอบ หลังจัดทำแผนเสร็จต้องเสนอแผนให้จังหวัด เพื่อพิจารณาบรรจุไว้ในแผนแก้ไขและป้องกันสิ่งแวดล้อมจังหวัด
นายสยุมพร กล่าวว่าเงื่อนไขในการจัดทำแผนภายใน 120 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมเป็นต้นไป ความหมายการประกาศเขตควบคุมมลพิษ เป็นการส่งสัญญาณว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่เริ่มมีปัญหา และไม่ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดและจริงจัง อาจก่อให้เกิดปัญหาเพิ่มมากขึ้นในอนาคต การให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นช่วยกันจัดทำแผน เพื่อต้องการให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น เพื่อสะท้อนปัญหาชุมชนในท้องถิ่น
นายสยุมพร กล่าวและว่าหัวใจของการจัดทำแผนลดและขจัดมลพิษ นอกจากมาตรการเฝ้าระวังที่เน้นเรื่องมลภาวะเป็นพิษแล้ว สิ่งที่สำคัญอีกสิ่งหนึ่งคือเรื่องแผนการดูแลสุขภาพของพี่น้องประชาชน ต้องหยิบยกขึ้นมาเป็นเรื่องสำคัญ พอๆกับแผนลดและขจัดมลพิษ การดูแลแก้ไขปัญหาสังคม การดูแลชุมชนที่ได้รับผลกระทบ ในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งเป็นตัวแทนรัฐบาล ในการที่จะกำกับดูแลให้งานของรัฐทุกเรื่องสามารถดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะเดียวกันในฐานะพ่อเมืองต้องดูแลปัญหาของพี่น้องประชาชน ต้องทำสองอย่างควบคู่กันไป และสิ่งที่จังหวัดอยากเห็นหลังจากนี้การเดินหน้าร่วมกันพร้อมๆกันทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เดินหน้าโดยใช้หลักการมีส่วนร่วม และต้องการให้เกิดสิ่งที่ดีๆ และอยากให้ใช้โอกาสนี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง แต่อย่ามองว่านี่เป็นวิกฤต ใช้โอกาสนี้ทำให้เกิดแผนที่ดีๆขึ้นในเมืองระยองต่อไปในอนาคต
