xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯปลุกพลังเกษตรกรกู้ชาติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (10 พ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวคำปราศรัย เนื่องในโอกาสวันเกษตรกร ประจำปี 2552 วันที่ 10 พฤษภาคม 2552 ในตอนหนึ่งว่า รัฐบาล ตระหนักอยู่เสมอว่า เกษตรกร และผู้ที่ประกอบอาชีพการเกษตร เป็นบุคคลสำคัญที่ได้ทำคุณประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองมาอย่างต่อเนื่อง การที่ประเทศไทยสามารถพัฒนาด้านเศรษฐกิจภาพรวมก้าวหน้ามาถึงปัจจุบันนี้ได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเรามีภาคการเกษตรที่เข้มแข็ง คอยค้ำจุนระบบเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมอันดีงามของชาติมาโดยตลอด
ปัจจุบัน แม้ว่าทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย จะกำลังประสบกับปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจที่รุนแรง ทำให้ต้องเผชิญกับภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ อันเป็นผลมาจากการชะลอตัวของการส่งออก และการลงทุนของภาคเอกชน รวมทั้งการลดลงของราคาสินค้าเกษตร จนทำให้จำนวนคนว่างงานเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก แต่รัฐบาล มีความเชื่อมั่นว่า ภาคการเกษตรของไทยจะสามารถช่วยให้ประเทศผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ และพัฒนาได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ประชากรของไทย ร้อยละ35 หรือประมาณ 22.7 ล้านคน ประกอบอาชีพในภาคเกษตรกรรม ผลผลิตทางการเกษตร นอกจากจะเป็นสินค้าส่งออกที่สร้างรายได้หลักให้กับประเทศแล้ว ยังเป็นฐานการผลิตอาหารที่สำคัญ จนประเทศไทยได้ชื่อว่าเป็นประเทศผู้ส่งออกอาหารระดับต้น ๆของโลก สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั้งในประเทศ และต่างประเทศ และสามารถสร้างมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภาคเกษตรได้ถึง 1.03 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ รัฐบาลได้กำหนดนโยบายทางด้านการเกษตร ที่สำคัญรวม 3 ประการ คือ
1. การแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ โดยการแทรกแซงสินค้าเกษตร และเร่งหาตลาดใหม่ การลดต้นทุนการผลิต ด้วยการจัดหาปุ๋ยเคมีราคาถูกให้เกษตรกร การส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ควบคู่ไปกับปุ๋ยเคมี และแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างทั้งระบบครบวงจร ตั้งแต่การผลิต การแปรรูป การสร้างมูลค่าเพิ่ม การตลาด การขนส่ง การตรวจสอบ ย้อนกลับสินค้า ตลอดจนการร่วมมือกับประเทศผู้ผลิตสินค้าชนิดเดียวกัน กำหนดการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดเพื่อรักษาระดับราคา
2 . การรองรับปัญหาคนว่างงานกลับเข้าสู่ภาคการเกษตร เพื่อเป็นการช่วยเหลือให้แรงงานที่ถูกเลิกจ้าง ได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐ ได้อย่างรวดเร็ว และเป็นทางเลือกในการประกอบอาชีพของประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากวิกฤตเศรษฐกิจ และปัญหาการว่างงาน โดยให้แรงงานว่างงานที่ต้องการเข้าทำงานในภาคเกษตร ลงทะเบียนและแจ้งทางเลือกในการประกอบอาชีพได้ตามความต้องการของแรงงาน เช่น ต้องการที่ดินทำกิน ต้องการรับจ้าง หรือใช้แรงงานเท่านั้น เป็นต้น
3. การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจภาคเกษตร ประกอบด้วย 3.1 ) การพัฒนาเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร โดยส่งเสริมให้มีระบบประกันความเสี่ยงสำหรับเกษตรกร จัดตั้งกองทุนสวัสดิการเกษตรกร จัดทำทะเบียนเกษตรกร เร่งรัดแก้ไขปัญหาหนี้สินและฟื้นฟูอาชีพเกษตรกร ส่งเสริมและพัฒนาสถาบันเกษตรกร รวมทั้งสร้างและพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่
3.2) การพัฒนาการผลิต โดยจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาสินค้าเกษตรระยะยาว เป็นรายสินค้า พัฒนาคุณภาพผลผลิต และระบบตรวจสอบมาตรฐานสินค้า กำหนดเขตส่งเสริมและพัฒนาการผลิต วิจัยพัฒนาพันธุ์ และเทคโนโลยีที่เหมาะสม ส่งเสริมและพัฒนาการผลิตพืชทดแทนพลังงาน ส่งเสริมการทำประมงนอกน่านน้ำ ตลอดจนร่วมเจรจาทางการค้าสินค้าเกษตรระหว่างประเทศ
3.3) การพัฒนาปัจจัยพื้นฐานและภารกิจสนับสนุน โดยพัฒนาปรับปรุงและขยายระบบชลประทาน รวมทั้งแก้ไขปัญหาด้านขนส่งสินค้าเกษตร ออกกฎระเบียบเพื่อคุ้มครองที่ดินที่เหมาะสมสำหรับการเกษตร เร่งรัดจัดที่ดินทำกินให้กับเกษตรกร เร่งรัดและขยายการจัดรูปที่ดิน ฟื้นฟูดินที่เสื่อมโทรม รวมทั้งพัฒนาระบบสารสนเทศ
ทั้งนี้ นโยบายสองประการแรก เป็นนโยบายเร่งด่วนที่กำลังดำเนินการในปี2552 ส่วนนโยบายประการที่สาม จะได้เร่งดำเนินการในระยะกลางและระยะยาวต่อไป
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลมีความเชื่อมั่นว่า จะสามารถทำงานแก้ไขปัญหาของพี่น้องเกษตรกรได้อย่างจริงจังและได้ผลสำเร็จลุล่วงโดยมุ่งหวังให้ประเทศไทยรอดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่กำลังเผชิญอยู่ และพัฒนาไปสู่การเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนบนพื้นฐานที่เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดี ประเทศมีความมั่นคงด้านอาหาร และประชาชนมีอาหารบริโภคที่ปลอดภัย และขอให้ทุกท่านเป็นพลังสำคัญทั้งในการช่วยกอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจที่ชาติเรา เผชิญอยู่และการนำพาประเทศให้พัฒนาก้าวหน้าอย่างยั่งยืนสืบไป
กำลังโหลดความคิดเห็น