xs
xsm
sm
md
lg

สสจ.เชียงรายเตือนชาวบ้านกินหน่อไม้ปี๊บป่วยเป็น “โบทูลิซึม” ซ้ำรอยคนน่านปี 49

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงราย – สาธารณสุขเมืองพ่อขุนฯ เร่งเตือนชาวบ้านบริโภค “หน่อไม้ปี๊บ” อันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ หลังเกิดเหตุชาวบ้านเมืองน่านล้มป่วยด้วยโรคอาหารเป็นพิษ “โบทูลิซึม” เมื่อปี 49 กว่า 200 ราย พร้อมเดินหน้าตรวจเข้มผู้ผลิตหน่อไม้ดอง

นายแพทย์ชำนาญ หาญสุทธิเวชกุล นายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ทางคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้แจ้งเตือนให้ประชาชนระมัดระวังในการเลือกซื้อและบริโภคหน่อไม้ปี๊บ รวมทั้งกำชับให้ผู้ผลิต ต้องผลิตหน่อไม้ปี๊บแบบปรับกรดเท่านั้น ส่วนผู้ขายให้จำหน่ายเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีเครื่องหมาย อย.เพราะเป็นห่วงประชาชนที่บริโภค

ทั้งนี้ เนื่องจากเคยมีตัวอย่างจากกรณีเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2549 ที่มีชาวบ้าน อ. บ้านหลวง จ. น่าน จำนวนกว่า 200 ราย ล้มป่วยลงด้วยโรคอาหารเป็นพิษ “โบทูลิซึม” มีสาเหตุมาจากการบริโภคหน่อไม้ปี๊บที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการผลิตที่ถูกต้อง ทำให้ไม่สามารถฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ “คลอสตริเดียม โบทูลินัม” ที่สร้างสารพิษ “โบทูลินัมทอกซิน” ออกมาปนเปื้อนในหน่อไม้ปี๊บได้ ซึ่งส่งผลให้ผู้ป่วยบางรายมีอาการรุนแรงถึงขั้นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ จนรัฐบาลต้องใช้งบประมาณกว่า 33 ล้านบาทเข้าแก้ไข

นายแพทย์ชำนาญกล่าวย้ำว่า หากมีเชื้อแม้ว่าผู้บริโภคเพียงเล็กน้อย ก็อาจจะมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ หรือในบางรายอาจจะรอดชีวิต แต่ก็ไม่สามารถดำรงชีวิตและประกอบอาชีพได้อย่างปกติ ดังนั้นในปีนี้จึงมีมาตรการป้องกันคือ ให้ผู้ผลิต ต้องดำเนินการผลิตหน่อไม้ปี๊บแบบปรับกรดเท่านั้น ซึ่งมีค่าความเป็นกรด-ด่าง หรือพีเอชไม่เกิน 4.6 และต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิตอาหารหรือจีเอ็มพ โดยต้องขออนุญาตผลิตอาหารให้ถูกต้องตามกฎหมาย

สำหรับผู้จำหน่ายต้องจำหน่ายเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการอนุญาตจาก อย.แล้วเท่านั้น โดยหน่อไม้ปี๊บต้องมีฉลากถูกต้องซึ่งจะต้องระบุชื่อสถานที่ผลิต เดือนปีที่ผลิตหรือวันเดือนปีที่หมดอายุ และมีเครื่องหมาย อย.ส่วนภาชนะบรรจุต้องเป็นปี๊บใหม่ ไม่มีรอยบัดกรีฝา ตัวปี๊บไม่มีรอยบุบ บวม รั่ว รวมทั้งไม่ควรซื้อหน่อไม้ที่มีก้นปี๊บดำจากการเผาไหม้โดยตรงกับเปลวไฟ เพราะจะทำให้เกิดการปนเปื้อนของโลหะหนักจากภาชนะบรรจุ ส่วนผู้บริโภคต้องเลือกซื้อหน่อไม้ปี๊บที่มีการปรับกรดแล้ว ซึ่งมีรสเปรี้ยวบ้าง และที่สำคัญก่อนบริโภคทุกครั้งให้ต้มในน้ำเดือดนาน 20-30 นาที แล้วเทน้ำต้มทิ้งเพื่อความปลอดภัย

ขณะนี้สาธารณสุข จ.เชียงราย ได้มอบนโยบายกับเจ้าหน้าที่ทุกอำเภอแล้ว และเฝ้าระวังตรวจสอบให้คำแนะนำ กรณีผู้ผลิตหากฝ่าฝืน โดยผลิตโดยไม่ได้รับอนุญาตให้ตั้งโรงงานจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกรณีไม่ขึ้นทะเบียนตำรับอาหารจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากสถานที่ผลิตไม่ผ่านตามเกณฑ์จีเอ็มพี ผู้ผลิตจะต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท

ส่วนผู้จำหน่ายหากพบว่ามีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีเครื่องหมาย อย. ซึ่งบ่งบอกว่าผลิตภัณฑ์นั้นไม่ได้ขึ้นทะเบียนหรือไม่ได้รับอนุญาตใช้ฉลาก จะถือว่าจำหน่ายอาหารที่ไม่ขึ้นทะเบียนมีโทษปรับ 1,000-10,000 บาท หรือจำหน่ายอาหารที่มีฉลากไม่ถูกต้องมีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท

ทั้งนี้ หากตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์แล้วพบว่ามีการปนเปื้อนของเชื้อคลอสตริเดียม โบทูลินัม หรือมีสารพิษ เช่น สารตะกั่วจากการบัดกรีฝา จะมีโทษฐานจำหน่ายอาหารไม่บริสุทธิ์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากมีข้อสงสัยติดต่อได้ที่สำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงราย โทร.0-5391-0322-3
กำลังโหลดความคิดเห็น