xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊ก”OGCทุ่มงบ100-200ล. ซื้อเครื่องจักรต่อยอดการผลิต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โอเชียนกลาส เตรียมทุ่มงบ 100-200 ล้านบาท ซื้อเครื่องจักรเพิ่มกำลังผลิตแก้วคริสตอลปลอดสารตะกั่ว หลังจากปีก่อนลงทุนไปแล้ว 990 ล้านบาท ยอมรับปีนี้รายได้หด 10% จากปี 51 ที่มีรายได้ 1.83 พันล้านบาท หลังพิษเศรษฐกิจทำให้ออเดอร์หาย

นางศันสนีย์ สุภัทรวณิชย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเชียนกลาส จำกัด (มหาชน) หรือ OGC เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมทุ่มงบ 100-200 ล้านบาท ซื้อเครื่องจักรเพื่อต่อยอดกำลังการผลิตแก้วคริสตอลปลอดสารตะกั่ว (Crystalline Glass) อีกจำนวน 1 เครื่อง โดยแหล่งเงินทุนในส่วนนี้จะมาจากวงเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ทั้งหมด หลังจากในปีที่ผ่านทาง OGC ได้มีการลงทุนในส่วนของโรงงานและเครื่องจักรไปแล้วจำนวน 990 ล้านบาท

ทั้งนี้ การลงทุนเพิ่มเติมในส่วนนี้จะทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ของ OGC เพิ่มเป็น 1.00 เท่า จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 0.82 เท่า ซึ่งถ้าหากทุกอย่างเป็นไปตามที่วางไว้โรงงานแห่งใหม่นั้นจะสามารถผลิตสินค้าประเภท Crystalline Glassได้สูงสุดถึง 12-15 ล้านชิ้นต่อปี

สำหรับในปี 52 บริษัทฯ ประเมินว่ารายได้น่าจะหดตัวประมาณ 10% จากปี 51 ที่มีรายได้อยู่ที่ 1.83 พันล้านบาท เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจนมีผลให้คำสั่งซื้อขาย (ออร์เดอร์) จากลูกค้าลดลง แต่อย่างไรก็ดีบริษัทได้เตรียมปรับลดกำลังการผลิตลง 10-20% เพื่อให้สอดคล้องกับยอดขายที่คาดว่าจะลดลง 10%และจะหันมาเพิ่มกำลังการผลิตตัวสินค้าประเภทแก้วคริสตอลที่ให้มาร์จิ้นสูงกว่าแก้วทั่วไป 10-20% อีกทั้งจะทำการตลาดเพื่อเป็นการเจาะตลาดแถบเอเชียและขยายฐานรายได้ของบริษัทให้มากขึ้น ซึ่งถ้าหากทางบริษัทฯ ไม่ดำเนินการในเรื่องเหล่านี้อาจทำให้รายได้ลดลงถึง 30%

อย่างไรก็ตามแนวทางการบริหารบริษัทฯ ปีนี้จะอยู่บนพื้นต่างๆ ดังนี้ การบริหารงานอย่างรอบคอบ เพื่อรักษาอัตรากำไรโดยมุ่งเน้นปรับปรุงกระบวนการภายใน สร้างภาพพจน์ตราสินค้าและเครื่อข่ายการตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงจะพยายามเน้นขายในตลาดเอเชียเป็นหลัก เพื่อทดแทนตลาดในยุโรปและสหรัฐฯ ที่เริ่มหดตัวตามภาวะเศรษฐกิจ

ขณะที่สัดส่วนรายได้ของทางบริษัทในปัจจุบันนั้นจะแบ่งออกเป็น ตลาดในภูมิภาคเอเชีย อาทิ ประเทศจีน อินเดีย ออสเตเลีย และไทยประมาณ 80% และตลาดแถบยุโรปและสหรัฐอเมริกาจะมีสัดส่วนอยู่ที่ 20%

ส่วนผลการดำเนินในปี 51 พบว่ามีกำไรสุทธิอยู่ที่ 95.98 ล้านบาท เทียบกับปี 51 ที่มีอัตรากำไรสุทธิที่ 134.39 ล้านบาท ลดลง 38.41 ล้านบาท หรือคิดเป็น 28.58% โดยรายได้หลักมาจากการขายสินค้าประเภทแก้วของบริษัท ขณะที่สาเหตุที่ผลการดำเนินงานลดลงมาจากค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการขายที่เพิ่มขึ้นและการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนอันเป็นผลมากจากความผัวผวนของค่าเงินบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น