ขิงแก่ห่วงสุขภาพคนไทย สั่งเอสเอ็มอีแบงก์-ออมสินปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำโรงงานผลิตหม้อและแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวเพื่อเปลี่ยนหม้อก๋วยเตี๋ยว บิ๊กเอสเอ็มอีแบงก์เด้งรับเผยประสานงานแบงก์ออมสินและโรงงานผลิตหม้อไร้สารตะกั่วหรือสแตนเลสแทนหม้อเดิม
คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ให้ความเห็นชอบมาตรการคุ้มครองผู้บริโภค โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย ได้สื่อความไปยังประชาชนทั่วประเทศเพื่อให้รับทราบถึงอันตรายที่เกิดขึ้นจากสารตะกั่วที่เชื่อมอยู่ในหม้อก๋วยเตี๋ยว หม้อกาแฟ หรือถังใส่น้ำตามโรงเรียนต่างๆ และมีมาตรการกระทรวงอุตสาหกรรมดูแลเรื่องมาตรฐานสินค้า และให้ธนาคารเอสเอ็มอีให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ กับผู้ประกอบการ พ่อค้า แม่ค้า ในการเปลี่ยนหม้อก๋วยเตี๋ยวหรือกาแฟให้เป็นเสตนเลส ซึ่ง ครม.ได้ให้คำแนะนำให้ผู้ประกอบการต่าง ๆ เร่งรัดเปลี่ยนหม้อใหม่ โดยเฉพาะตามโรงเรียนต่างๆ
นายพงษ์ศักดิ์ ชิวชรัตน์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ เอสเอ็มอีแบงก์ เปิดเผยว่า ธนาคารอยู่ระหว่างการจัดแคมเปญสินเชื่อเพื่อเปลี่ยนหม้อก๋วยเตี๋ยวให้ปลอดจากสารตะกั่ว ร่วมกับธนาคารออมสิน และกระทรวงอุตสาหกรรม โดยธนาคารจะติดต่อกับโรงงานผู้ผลิตหม้ออะลูมิเนียม เพื่อให้สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน เพื่อให้โรงงานผลิตหม้อที่ปลอดสารตะกั๋วในราคาไม่สูงมากนัก และให้ธนาคารออมสินปล่อยสินเชื่อต้นทุนต่ำให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่ต้องการที่จะซื้อหม้อก๋วยเตี๋ยวใหม่ไปเปลี่ยน โดยจะพยายามผลักดันให้โครงการดังกล่าวสามารถเปิดตัวได้ภายในเดือนนี้
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากธนาคารเป็นธนาคารสำหรับเอสเอ็มอีจึงไม่สามารถปล่อยกู้ที่ระดับพ่อค้าแม่ค้าได้โดยตรง แต่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงหม้อก๋วยเตี๋ยวเพื่อสุขภาพของประชาชน จึงได้ประสานไปกับธนาคารออมสินซึ่งเป็นธนาคารที่เป็นผู้นำในการปล่อยกู้รายย่อย ให้เข้ามาสนับสนุนเงิยทุนอัตราดอกเบี้ยต่ำ โดยหลักการของทั้ง 2 ธนาคาร ที่จะเข้าร่วมสนับสนุนโครงการนี้ คือ จะคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุดเท่าที่ต้นทุนทางการเงินจะเอื้ออำนวย
"จะนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการในวันที่ 8 มกราคมนี้ โดยจะเสนอสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยเท่ากับที่ต้นทุนทางการเงินของธนาคารระดมมาได้ คือประมาณ 7-7.5% ให้แก่โรงงานผลิตหม้อที่มีอยู่ทั่วประเทศจำนวนกว่า 700 โรงงาน โดยได้เตรียมวงเงินไว้ประมาณ 2-3 พันล้านบาท ซึ่งหากใครสนใจมาเข้าโครงการก็มาใช้สินเชื่อได้" นายพงษ์ศักดิ์กล่าวและว่า ธนาคารจะประสานให้พ่อค้าแม่ค้าเข้ามาซื้อหม้อไปเปลี่ยน โดยธนาคารออมสินก็จะเข้ามารับช่วงต่อในส่วนนี้โดยการปล่อยกู้ให้กับพ่อค้าแม่ค้าในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อจูงใจให้พ่อค้าแม่ค้าเต็มใจที่จะเปลี่ยนเครื่องมือทำมาหากินไปสู่สิ่งที่ปลอดภัยกว่า ซึ่งที่ผ่านมาได้ประสานงานกับธนาคารออมสินในเบื้องต้นแล้วก็ได้รับความสนใจที่จะเข้ามาช่วยงานเพื่อสังคม"
คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ให้ความเห็นชอบมาตรการคุ้มครองผู้บริโภค โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย ได้สื่อความไปยังประชาชนทั่วประเทศเพื่อให้รับทราบถึงอันตรายที่เกิดขึ้นจากสารตะกั่วที่เชื่อมอยู่ในหม้อก๋วยเตี๋ยว หม้อกาแฟ หรือถังใส่น้ำตามโรงเรียนต่างๆ และมีมาตรการกระทรวงอุตสาหกรรมดูแลเรื่องมาตรฐานสินค้า และให้ธนาคารเอสเอ็มอีให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ กับผู้ประกอบการ พ่อค้า แม่ค้า ในการเปลี่ยนหม้อก๋วยเตี๋ยวหรือกาแฟให้เป็นเสตนเลส ซึ่ง ครม.ได้ให้คำแนะนำให้ผู้ประกอบการต่าง ๆ เร่งรัดเปลี่ยนหม้อใหม่ โดยเฉพาะตามโรงเรียนต่างๆ
นายพงษ์ศักดิ์ ชิวชรัตน์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ เอสเอ็มอีแบงก์ เปิดเผยว่า ธนาคารอยู่ระหว่างการจัดแคมเปญสินเชื่อเพื่อเปลี่ยนหม้อก๋วยเตี๋ยวให้ปลอดจากสารตะกั่ว ร่วมกับธนาคารออมสิน และกระทรวงอุตสาหกรรม โดยธนาคารจะติดต่อกับโรงงานผู้ผลิตหม้ออะลูมิเนียม เพื่อให้สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน เพื่อให้โรงงานผลิตหม้อที่ปลอดสารตะกั๋วในราคาไม่สูงมากนัก และให้ธนาคารออมสินปล่อยสินเชื่อต้นทุนต่ำให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่ต้องการที่จะซื้อหม้อก๋วยเตี๋ยวใหม่ไปเปลี่ยน โดยจะพยายามผลักดันให้โครงการดังกล่าวสามารถเปิดตัวได้ภายในเดือนนี้
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากธนาคารเป็นธนาคารสำหรับเอสเอ็มอีจึงไม่สามารถปล่อยกู้ที่ระดับพ่อค้าแม่ค้าได้โดยตรง แต่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงหม้อก๋วยเตี๋ยวเพื่อสุขภาพของประชาชน จึงได้ประสานไปกับธนาคารออมสินซึ่งเป็นธนาคารที่เป็นผู้นำในการปล่อยกู้รายย่อย ให้เข้ามาสนับสนุนเงิยทุนอัตราดอกเบี้ยต่ำ โดยหลักการของทั้ง 2 ธนาคาร ที่จะเข้าร่วมสนับสนุนโครงการนี้ คือ จะคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุดเท่าที่ต้นทุนทางการเงินจะเอื้ออำนวย
"จะนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการในวันที่ 8 มกราคมนี้ โดยจะเสนอสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยเท่ากับที่ต้นทุนทางการเงินของธนาคารระดมมาได้ คือประมาณ 7-7.5% ให้แก่โรงงานผลิตหม้อที่มีอยู่ทั่วประเทศจำนวนกว่า 700 โรงงาน โดยได้เตรียมวงเงินไว้ประมาณ 2-3 พันล้านบาท ซึ่งหากใครสนใจมาเข้าโครงการก็มาใช้สินเชื่อได้" นายพงษ์ศักดิ์กล่าวและว่า ธนาคารจะประสานให้พ่อค้าแม่ค้าเข้ามาซื้อหม้อไปเปลี่ยน โดยธนาคารออมสินก็จะเข้ามารับช่วงต่อในส่วนนี้โดยการปล่อยกู้ให้กับพ่อค้าแม่ค้าในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อจูงใจให้พ่อค้าแม่ค้าเต็มใจที่จะเปลี่ยนเครื่องมือทำมาหากินไปสู่สิ่งที่ปลอดภัยกว่า ซึ่งที่ผ่านมาได้ประสานงานกับธนาคารออมสินในเบื้องต้นแล้วก็ได้รับความสนใจที่จะเข้ามาช่วยงานเพื่อสังคม"
