อย.เตือนประชาชนระวังกินหน่อไม้ปี๊บ ช่วงสงกรานต์กลับบ้านต่างจังหวัด แนะก่อนกินต้มในน้ำเดือดนาน 20-30 นาที แล้วเทน้ำต้มทิ้ง คุมเข้มผู้ผลิตหน่อไม้ปี๊บแบบปรับกรดต้องผ่านเกณฑ์ GMPเตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบทั้งสถานที่ผลิตและร้านค้า ค้าส่งต่าง ๆ ทั่วประเทศ พ.ค.นี้ หากพบผู้กระทำการฝ่าฝืน จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด
นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) กล่าวเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการบริโภคหน่อไม้ปี๊บ โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์กลับบ้านต่างจังหวัด ควรเลือกซื้อหน่อไม้ปี๊บที่มีการปรับกรดแล้วเท่านั้น และต้องมีกระบวนการผลิตให้ได้มาตรฐานตามวิธีการที่ดีในการผลิตอาหาร หรือ GMP เพื่อป้องกันโรคอาหารเป็นพิษ “โบทูลิซึ่ม” โดยมีสาเหตุมาจากการบริโภคหน่อไม้ปี๊บที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการผลิตที่ถูกต้อง ทำให้ไม่สามารถฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ “คลอสตริเดียม โบทูลินัม” ที่สร้างสารพิษ “โบทูลินัมทอกซิน” ออกมาปนเปื้อนในหน่อไม้ปี๊บได้
อย่างไรก็ตาม อย. ตระหนักและเล็งเห็นถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้จากปัญหาดังกล่าว จึงมีมาตรการป้องกัน ดังนี้ 1. ผู้ผลิต ต้องดำเนินการผลิตหน่อไม้ปี๊บแบบปรับกรดเท่านั้น ซึ่งมีค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) ไม่เกิน 4.6 เพื่อยับยั้งการเจริญของเชื้อคลอสตริเดียมโบทูลินัม และต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิตอาหาร หรือ GMP โดยต้องขออนุญาตผลิตอาหารให้ถูกต้องตามกฎหมาย 2. ผู้จำหน่าย ต้องจำหน่ายเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการอนุญาตจาก อย. แล้วเท่านั้น โดยหน่อไม้ปี๊บต้องมีฉลากถูกต้อง ซึ่งจะต้องระบุชื่อสถานที่ผลิต เดือนปีที่ผลิตหรือวันเดือนปีที่หมดอายุ และมีเครื่องหมาย อย. ส่วนภาชนะบรรจุต้องเป็นปี๊บใหม่ ไม่มีรอยบัดกรีฝา ตัวปี๊บไม่มีรอยบุบ บวม รั่ว รวมทั้งไม่ควรซื้อหน่อไม้ที่มีก้นปี๊บดำจากการเผาไหม้โดยตรงกับเปลวไฟ เพราะจะทำให้เกิดการปนเปื้อนของโลหะหนักจากภาชนะบรรจุ และ 3. ผู้บริโภค ต้องเลือกซื้อหน่อไม้ปี๊บที่มีการปรับกรดแล้ว ซึ่งมีรสเปรี้ยวบ้าง และที่สำคัญก่อนบริโภคทุกครั้งให้ต้มในน้ำเดือดนาน 20-30 นาที แล้วเทน้ำต้มทิ้ง เพื่อความปลอดภัยในการบริโภคและยังช่วยลดความเปรี้ยวได้ด้วย
นอกจากนี้ อย. ยังมีมาตรการติดตามเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด และเอาจริงกับผู้กระทำผิดขั้นเด็ดขาด โดย อย. เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบในเดือนพฤษภาคมนี้ ทั้งสถานที่ผลิตหน่อไม้ปี๊บในภูมิภาคต่าง ๆ และร้านค้าตามตลาดค้าส่งและค้าปลีกต่าง ๆ ทั่วประเทศ หากพบว่าผู้ผลิตรายใดไม่ได้รับอนุญาตให้ตั้งโรงงานผลิตอาหารจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกรณีไม่ขึ้นทะเบียนตำรับอาหารจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากสถานที่ผลิตไม่ผ่านตามเกณฑ์ GMP ผู้ผลิตจะต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท
ส่วนผู้จำหน่าย หากพบว่ามีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีเครื่องหมาย อย. ซึ่งบ่งบอกว่าผลิตภัณฑ์นั้นไม่ได้ขึ้นทะเบียนหรือไม่ได้รับอนุญาตใช้ฉลาก จะถือว่าจำหน่ายอาหารที่ไม่ขึ้นทะเบียนมีโทษปรับ 1,000 -10,000 บาท หรือจำหน่ายอาหารที่มีฉลากไม่ถูกต้องมีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท และหากตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์แล้ว พบว่ามีการปนเปื้อนของเชื้อคลอสตริเดียม โบทูลินัม หรือมีสารพิษ เช่น สารตะกั่วจากการบัดกรีฝา จะมีโทษฐานจำหน่ายอาหารไม่บริสุทธ์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ