ศูนย์ข่าวศรีราชา - เริ่มแล้ว! การประชุมรัฐมนตรีคลังอาเซียนครั้งที่ 13 ที่พัทยา ขุนคลังไทยชี้ในที่ประชุมไม่มีการพูดเรื่องม็อบหางแดงอย่างละเอียด อาเซียนเชื่อรัฐบาลไทยยังทำงานต่อไปได้ ระบุอาเซียนได้เสนอเพิ่มทุนให้กับ ADB ถึง 200% เพื่อเสริมบทบาทการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของคนทั่วเอเชีย
นายกรณ์ จาติกวนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในวันนี้รัฐมนตรีคลังของไทยได้เป็นประธานจัดการประชุมรัฐมนตรีคลังอาเซียน ครั้งที่ 13 ซึ่งเป็นการประชุมพบปะกันต่อเนื่อง หลังจากการประชุมรัฐมนตรีคลังอาเซียน+3+6 ครั้งพิเศษเมื่อเดือนก่อนที่จังหวัดภูเก็ต โดยก่อนการประชุมในวันนี้ รัฐมนตรีคลังของไทย ได้พบปะกับกลุ่มของนักธุรกิจจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งมาสนับสนุนให้อาเซียนรวมพลังกันอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะด้านการค้า การลงทุนและเศรษฐกิจโดยรวม เนื่องจากเห็นว่าหากผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้ไปได้แล้ว กลุ่มของอาเซียนจะเป็นกลุ่มที่มีโอกาสที่ดีที่สุด
ในภาคบ่ายวันนี้ที่ประชุมจะพูดถึงรายละเอียดของการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน และมาตรการริเริ่มเชียงใหม่ ซึ่งจะสรุปเรื่องการจัดตั้งกองทุนความร่วมมือทางการเงิน ในส่วนของชาติสมาชิกอาเซียนสิบประเทศต้องส่งเงินสมทบ 20% ส่วนที่เหลืออีก 80% เป็นของกลุ่มประเทศ+3 คือ จีน, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นที่ยังไม่ได้ข้อสรุปนั้น คาดว่าทางกลุ่มของประเทศ +3 จะหารือกันในการประชุมรัฐมนตรีคลังอาเซียน +3 ในเดือนพฤษภาคมนี้ที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงเรื่องของการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ในขณะนี้ว่า ที่ประชุมไม่มีการพูดถึงโดยละเอียดแต่โดยภาพรวมเห็นว่า รัฐบาลยังสามารถเดินหน้าทำงานต่อไปได้ ซึ่งการประท้วงเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเส้นทางการพัฒนาประชาธิปไตยของประเทศไทยที่สะท้อนซึ่งความหลากหลายทางความคิดเห็น และทางสหรัฐฯ เองก็มีการพบเห็นอยู่บ่อยครั้ง
ส่วนการที่กลุ่มม็อบเสื้อแดง อาจพยายามขัดขวางหรือทำลายการประชุมอาเซียนซัมมิตนั้น ณ วันนี้รัฐบาลทำงานในฐานะตัวแทนคนไทยทั้งประเทศ คนที่ได้ประโยชน์คือส่วนรวมและพี่น้องชาวอาเซียนทั้ง 10 ประเทศและคนไทยด้วยกัน คนที่ทำงานเพื่อขัดขวางต้องไตร่ตรองให้รอบคอบว่าการดำเนินการครั้งนี้ คุ้มค่ากับประโยชน์ที่ได้รับของคนบางคนหรือไม่ ซึ่งโดยส่วนตัวตนมองว่าเป็นวิถีที่ไม่ถูกต้องและไม่สมควร เพราะการมีปัญหากับคนใดควรแก้ที่คนนั้น มิใช่มาทำลายโอกาสของคนไทยทั้งประเทศและคนในอาเซียนทั้งหมด ซึ่งที่ผ่านมาความไม่มั่นคงทางการเมือง ได้ทำลายโอกาสการพัฒนาประเทศมานาน และเป็นปัญหาที่คนไทยต้องหาทางแก้ไข
นายกรณ์ยังกล่าวถึงการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ได้เสนอให้เพิ่มทุนกับภาคสถาบันการเงินว่าคงไม่เป็นปัญหา เพราะล่าสุดทางอาเซียนเองได้เสนอเพิ่มทุนให้กับธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเซีย หรือ ADB ไปถึง 200% เพื่อใช้เสริมบทบาทการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของคนเอเชียด้วยกัน
ส่วนทางสถาบันการเงินของไทยขณะนี้ ยังมีทุนสำรองเพียงพอรองรับได้อีกประมาณ 1-2 ปี ทั้งนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องกังวล และทางธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท.ก็ยังคงติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิดอีกด้วย