วันนี้ (7 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่ห้องประชุมสารสินตำรวจภูธรภาค 3 ถ.สรรพสิทธิ์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช. ผบ.ตร.) ได้เดินทางมาติดตามเร่งรัดการปราบปรามยาเสพติดตามนโยบายรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงคดีค้างเก่า การปราบปรามเงินกู้นอกระบบ มาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในช่วงเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2552 ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 3 โดยมีนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรตั้งแต่ระดับรองผู้บังคับการ, ผู้บังคับการในพื้นที่ 8 จังหวัดอีสานตอนล่าง เข้ารับมอบนโยบายกว่า 50 คน
พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผู้ช่วย ผบ.ตร.เปิดเผยว่า ได้สั่งกำชับตำรวจในพื้นที่ 8 จังหวัดอีสานตอนล่างใน 2 เรื่องสำคัญ คือ การปราบปรามยาเสพติดตามแนวนโยบายของรัฐบาล ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้กำหนดมาตรการให้กองบัญชาการตำรวจภูธรในแต่ละภาค ได้ดำเนินการกวาดล้างยาเสพติด 3 ช่วง คือ ก่อนถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์, ช่วงเทศกาลสงกรานต์ และ หลังสงกรานต์ โดยให้ตั้งจุดตรวจสกัดกวาดล้างยาเสพติดอย่างเข้มงวด
สำหรับพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 3 นั้น ในรอบปี 2552 ตั้งแต่เดือน ม.ค.- มี.ค.มีผลการจัดกุมคดียาเสพติด ยาบ้า ถึง 1.7 แสนเม็ด ซึ่งยาบ้าส่วนใหญ่ลักลอบเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยในพื้นที่ ภาค 3 มีจุดที่น่าเป็นห่วง 2 ส่วน คือ การทะลักเข้ามาของยาเสพติดตามแนวชายแดน โดยเฉพาะ อ.เขมราฐ, อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี และ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ จะเน้นการปรับแผนการตั้งจุดตรวจ จุดสกัดตามเส้นทางตอนในเพื่อสกัดการลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในประเทศ พร้อมสนธิกำลังกับทหารและตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ในพื้นที่ดังกล่าวด้วย
อีกส่วนหนึ่งคือ เส้นทางลำเลียง ซึ่งอีสานจะมีถนนสายหลักที่เป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติดคือ ถ.มิตรภาพ และ ถนนสายรองที่จะออกไปสู่กรุงเทพฯ จะมีการตั้งจุดตรวจสกัดถี่ขึ้น
พร้อมกันนี้ ได้สั่งการให้มีการปิดล้อมและตรวจค้นแหล่งพักยา หรือแหล่งแพร่ระบาดในพื้นที่ตอนใน เช่น จ.นครราชสีมา และ ชัยภูมิ ตลอดจนการสำรวจหมายจับและการหลบหนีประกันของผู้ต้องหาคดียาเสพติดให้โทษ และคดีอาญาต่างๆ ให้เร่งรัดจับกุม และปรับข้อมูลตามหมายจับให้เป็นปัจจุบันทุกเดือน โดยให้มีการมอบหน้าที่รับผิดชอบเรื่องยาเสพติดในพื้นที่ให้ชัดเจนตั้งแต่ระดับกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3, กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด และสถานีตำรวจ และทำการประชาวสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบเพื่อเป็นช่องทางการแจ้งเบาะแส ให้ข้อมูลหรือติดต่อประสานงานกับทางราชการได้อย่างรวดเร็ว
พล.ต.ท.สถาพร กล่าวอีกว่า ในส่วนการดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2552 รวมถึงการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม นั้น ได้สั่งกำชับให้ผู้บังคับบัญชาระดับหัวหน้าสถานีตำรวจอยู่ปฏิบัติหน้าที่ภายในเขตพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด ห้ามลา ห้ามขาด และควบคุมดูแลรถที่ผิดกฎหมายอย่างเข้มงวดรวมถึงการดื่มสุราขณะโดยสารมากับรถซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
ส่วนเส้นทางการจราจรมุ่งหน้าสู่ภาคอีสาน ที่น่าเป็นห่วงและจะต้องดำเนินการแก้ไขคือ เส้นทางถนนมิตรภาพรอยต่อระหว่าง จ.สระบุรี กับ จ.นครราชสีมา ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตรงนี้จะเป็นเส้นทางขึ้นเนิน รถชะลอตัวและติดขัดยาวประกอบกับประชาชนแวะพักตามสถานีบริการน้ำมัน ซึ่งปีนี้จะดูแลเข้มงวงเป็นพิเศษ
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรมและการตั้งจุดตรวจค้นเพื่อป้องกันอาชญากรรม โดยเฉพาะคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ เช่น การปล้นทรัพย์, ชิงทรัพย์ธนาคาร, ร้านทอง, ร้านอัญมณี, สถานบริการนำมันเชื้อเพลิง และสถานที่ที่มีการจำหน่ายสินค้าตลอด 24 ชั่วโมง พล.ต.ท.สถาพร กล่าว
พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผู้ช่วย ผบ.ตร.เปิดเผยว่า ได้สั่งกำชับตำรวจในพื้นที่ 8 จังหวัดอีสานตอนล่างใน 2 เรื่องสำคัญ คือ การปราบปรามยาเสพติดตามแนวนโยบายของรัฐบาล ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้กำหนดมาตรการให้กองบัญชาการตำรวจภูธรในแต่ละภาค ได้ดำเนินการกวาดล้างยาเสพติด 3 ช่วง คือ ก่อนถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์, ช่วงเทศกาลสงกรานต์ และ หลังสงกรานต์ โดยให้ตั้งจุดตรวจสกัดกวาดล้างยาเสพติดอย่างเข้มงวด
สำหรับพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 3 นั้น ในรอบปี 2552 ตั้งแต่เดือน ม.ค.- มี.ค.มีผลการจัดกุมคดียาเสพติด ยาบ้า ถึง 1.7 แสนเม็ด ซึ่งยาบ้าส่วนใหญ่ลักลอบเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยในพื้นที่ ภาค 3 มีจุดที่น่าเป็นห่วง 2 ส่วน คือ การทะลักเข้ามาของยาเสพติดตามแนวชายแดน โดยเฉพาะ อ.เขมราฐ, อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี และ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ จะเน้นการปรับแผนการตั้งจุดตรวจ จุดสกัดตามเส้นทางตอนในเพื่อสกัดการลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในประเทศ พร้อมสนธิกำลังกับทหารและตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ในพื้นที่ดังกล่าวด้วย
อีกส่วนหนึ่งคือ เส้นทางลำเลียง ซึ่งอีสานจะมีถนนสายหลักที่เป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติดคือ ถ.มิตรภาพ และ ถนนสายรองที่จะออกไปสู่กรุงเทพฯ จะมีการตั้งจุดตรวจสกัดถี่ขึ้น
พร้อมกันนี้ ได้สั่งการให้มีการปิดล้อมและตรวจค้นแหล่งพักยา หรือแหล่งแพร่ระบาดในพื้นที่ตอนใน เช่น จ.นครราชสีมา และ ชัยภูมิ ตลอดจนการสำรวจหมายจับและการหลบหนีประกันของผู้ต้องหาคดียาเสพติดให้โทษ และคดีอาญาต่างๆ ให้เร่งรัดจับกุม และปรับข้อมูลตามหมายจับให้เป็นปัจจุบันทุกเดือน โดยให้มีการมอบหน้าที่รับผิดชอบเรื่องยาเสพติดในพื้นที่ให้ชัดเจนตั้งแต่ระดับกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3, กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด และสถานีตำรวจ และทำการประชาวสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบเพื่อเป็นช่องทางการแจ้งเบาะแส ให้ข้อมูลหรือติดต่อประสานงานกับทางราชการได้อย่างรวดเร็ว
พล.ต.ท.สถาพร กล่าวอีกว่า ในส่วนการดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2552 รวมถึงการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม นั้น ได้สั่งกำชับให้ผู้บังคับบัญชาระดับหัวหน้าสถานีตำรวจอยู่ปฏิบัติหน้าที่ภายในเขตพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด ห้ามลา ห้ามขาด และควบคุมดูแลรถที่ผิดกฎหมายอย่างเข้มงวดรวมถึงการดื่มสุราขณะโดยสารมากับรถซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
ส่วนเส้นทางการจราจรมุ่งหน้าสู่ภาคอีสาน ที่น่าเป็นห่วงและจะต้องดำเนินการแก้ไขคือ เส้นทางถนนมิตรภาพรอยต่อระหว่าง จ.สระบุรี กับ จ.นครราชสีมา ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตรงนี้จะเป็นเส้นทางขึ้นเนิน รถชะลอตัวและติดขัดยาวประกอบกับประชาชนแวะพักตามสถานีบริการน้ำมัน ซึ่งปีนี้จะดูแลเข้มงวงเป็นพิเศษ
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรมและการตั้งจุดตรวจค้นเพื่อป้องกันอาชญากรรม โดยเฉพาะคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ เช่น การปล้นทรัพย์, ชิงทรัพย์ธนาคาร, ร้านทอง, ร้านอัญมณี, สถานบริการนำมันเชื้อเพลิง และสถานที่ที่มีการจำหน่ายสินค้าตลอด 24 ชั่วโมง พล.ต.ท.สถาพร กล่าว