ตร.ตามรวบได้อีก “สาวเมืองขุนแผน” แก๊ง ตชด.โหดอุ้มนางเพียงจิตกับลูกชาย สารภาพเป็นบุคคลตามหมายจับ อ้างถูกสมุน “ผู้กองณัฏฐ์” ชักชวนให้มาทำกดเงินไป 3 ครั้งได้เงินมากว่า 8 ล้านบาท ปัดไม่รู้ที่มาของเงิน
วันนี้ (4 มี.ค.) เมื่อเวลา 19.00 น. พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน ผกก.กก.สืบสวน บก.น.7 และ พ.ต.ท.ภิญโญ ป้อมสถิตย์ รอง ผกก.กก.สืบสวน บก.น.7 แถลงข่าวจับกุม น.ส.อัญชลี คชวงษ์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 137 ถนนพันคำ ต.ท่าพี่เลี้ยง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน เลขที่ จ.155/2551 ลงวันที่ 24 ม.ค.51 ในข้อหาร่วมกันกับพวก คือ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ชลนิธิวานิชย์ อดีต ตชด.โฉดที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ และลูกสมุนที่ยังหลบหนีอยู่ ปล้นทรัพย์นางเพียงจิตร พึ่งอ้น โดยมีอาวุธปืน ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นหน่วงเหนี่ยวกักขังลูกชายของนางเพียงจิตร ซึ่งมีอายุต่ำกว่า 15 ปี เพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่โดยใช้กำลังประทุษร้าย เหตุเกิดในท้องที่ สน.บางพลัด ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุม น.ส.อัญชลี ได้ที่บริเวณชั้น 3 ขนส่งสายใต้ใหม่ แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กทม.ขณะกำลังรอขึ้นรถหลบหนีลงไปในพื้นที่ภาคใต้
จากการสอบสวน น.ส.อัญชลี ยอมรับสารภาพว่า เดินตนมีอาชีพขายปุ๋ยอยู่ใน จ.สุพรรณบุรี ต่อมาได้รู้จักกับ ด.ต.ประสาร สอนทวี อดีต ตชด.42 ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาร่วมแก๊งที่ยังหลบหนี โดย ด.ต.ประสาร ได้ว่าจ้างให้ตนไปเปิดสมุดบัญชีเงินฝากที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาบางแค ในราคา 5,000 บาท พร้อมให้เหตุผลว่าจะมีงบราชการลับโอนเข้ามาในบัญชีนี้ จากนั้น ด.ต.ประสาร ได้ให้ตนเดินทางไปเบิกเงินที่แบงก์ออกมาจำนวน 3 ครั้ง ได้เงินรวมกว่า 8 ล้านบาท ซึ่งตนก็ไม่ยังทราบที่มาของเงิน จนกระทั่งเห็นข่าวในโทรทัศน์ว่ามีแก๊ง ตชด.ถูกจับ และมีชื่อของ ด.ต.ประสาร เป็นผู้ต้องหาถูกออกหมายจับด้วย ตนจึงต้องหลบหนีไปตั้งหลักตามบ้านญาติพี่น้องทั้งใน กทม.และ จ.สุพรรณบุรี พอเรื่องเงียบแล้วตนคิดว่าน่าจะเดินทางไปหลบอยู่กับญาติทางภาคใต้ จึงชะล่าใจเดินทางไปขึ้นรถที่สายใต้ใหม่จนถูกตำรวจจับกุมในที่สุด
ด้าน พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ กล่าวว่า จากการสอบสวน น.ส.อัญชลี ในเบื้องต้นยอมให้การรับสารภาพว่าเป็นบุคคลในหมายจับจริง ต่อจากนี้ตนจะสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมนำตัว น.ส.อัญชลี ส่งให้ ร.ต.ท.ประภาส หยงสตาร์ ร้อยเวร สน.บางพลัด ทำการสอบปากคำเพิ่มเติมต่อไป
วันนี้ (4 มี.ค.) เมื่อเวลา 19.00 น. พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน ผกก.กก.สืบสวน บก.น.7 และ พ.ต.ท.ภิญโญ ป้อมสถิตย์ รอง ผกก.กก.สืบสวน บก.น.7 แถลงข่าวจับกุม น.ส.อัญชลี คชวงษ์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 137 ถนนพันคำ ต.ท่าพี่เลี้ยง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน เลขที่ จ.155/2551 ลงวันที่ 24 ม.ค.51 ในข้อหาร่วมกันกับพวก คือ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ชลนิธิวานิชย์ อดีต ตชด.โฉดที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ และลูกสมุนที่ยังหลบหนีอยู่ ปล้นทรัพย์นางเพียงจิตร พึ่งอ้น โดยมีอาวุธปืน ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นหน่วงเหนี่ยวกักขังลูกชายของนางเพียงจิตร ซึ่งมีอายุต่ำกว่า 15 ปี เพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่โดยใช้กำลังประทุษร้าย เหตุเกิดในท้องที่ สน.บางพลัด ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุม น.ส.อัญชลี ได้ที่บริเวณชั้น 3 ขนส่งสายใต้ใหม่ แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กทม.ขณะกำลังรอขึ้นรถหลบหนีลงไปในพื้นที่ภาคใต้
จากการสอบสวน น.ส.อัญชลี ยอมรับสารภาพว่า เดินตนมีอาชีพขายปุ๋ยอยู่ใน จ.สุพรรณบุรี ต่อมาได้รู้จักกับ ด.ต.ประสาร สอนทวี อดีต ตชด.42 ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาร่วมแก๊งที่ยังหลบหนี โดย ด.ต.ประสาร ได้ว่าจ้างให้ตนไปเปิดสมุดบัญชีเงินฝากที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาบางแค ในราคา 5,000 บาท พร้อมให้เหตุผลว่าจะมีงบราชการลับโอนเข้ามาในบัญชีนี้ จากนั้น ด.ต.ประสาร ได้ให้ตนเดินทางไปเบิกเงินที่แบงก์ออกมาจำนวน 3 ครั้ง ได้เงินรวมกว่า 8 ล้านบาท ซึ่งตนก็ไม่ยังทราบที่มาของเงิน จนกระทั่งเห็นข่าวในโทรทัศน์ว่ามีแก๊ง ตชด.ถูกจับ และมีชื่อของ ด.ต.ประสาร เป็นผู้ต้องหาถูกออกหมายจับด้วย ตนจึงต้องหลบหนีไปตั้งหลักตามบ้านญาติพี่น้องทั้งใน กทม.และ จ.สุพรรณบุรี พอเรื่องเงียบแล้วตนคิดว่าน่าจะเดินทางไปหลบอยู่กับญาติทางภาคใต้ จึงชะล่าใจเดินทางไปขึ้นรถที่สายใต้ใหม่จนถูกตำรวจจับกุมในที่สุด
ด้าน พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ กล่าวว่า จากการสอบสวน น.ส.อัญชลี ในเบื้องต้นยอมให้การรับสารภาพว่าเป็นบุคคลในหมายจับจริง ต่อจากนี้ตนจะสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมนำตัว น.ส.อัญชลี ส่งให้ ร.ต.ท.ประภาส หยงสตาร์ ร้อยเวร สน.บางพลัด ทำการสอบปากคำเพิ่มเติมต่อไป