xs
xsm
sm
md
lg

พ่อค้ายางตรังร้อง “ชวน” เหตุไม่ปลอดภัยในการออกซื้อยางพารา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตรัง – พ่อค้ารับซื้อยางพารา จ.ตรัง เข้าพบนายชวน เรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินการแก้ไข ความไม่ปลอดภัยในการออกไปรับซื้อน้ำยางและยางแผ่นดิบจากชาวบ้าน

วันนี้ (19 ต.ค.) ที่บ้านพัก นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 183 บนถนนวิเศษกุล ตำบลทับเที่ยง ในเขตเทศบาลนครตรัง นางศศิธร เกลือกลิ่น อายุ 52 ปี ตัวแทนผู้ประกอบการรับซื้อยางพาราแผ่นดิบ และน้ำยางสด พร้อมด้วยพ่อค้า-แม่ค้า ประมาณ 50 คน ได้เดินทางเข้าพบ นายชวน หลีกภัย ที่บ้านพัก เพื่อเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินการแก้ไข และทำการจับกุมตัวคนร้ายที่ออกก่อเหตุปล้นทรัพย์ หรือชิงทรัพย์ ผู้ประกอบการรับซื้อยางพาราแผ่นดิบ และน้ำยางสด จนบางครั้งก็มีอันตรายรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต

ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ผู้ประกอบการรับซื้อยางพาราในจังหวัดตรัง ขาดความเชื่อมั่นในเรื่องของความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เพราะไม่รู้ว่าเหตุร้ายจะเกิดขึ้นกับตัวเอง และครอบครัวเมื่อไหร่ ซึ่งการออกมารับซื้อยางพาราในแต่ละครั้ง ก็จะมีการแบ่งเขตทำงานกันอย่างชัดเจนโดยรับผิดชอบกันจุดละประมาณ 2 กิโลเมตร ทำให้กลายเป็นเป้านิ่งสำหรับคนร้ายที่จะมาก่อเหตุ โดยผู้ประกอบการรับซื้อยางพาราเคยคุยกันว่า เห็นทีพวกตนจะต้องจัดตั้งกองกำลังมาคุ้มครองกันเอง แต่ก็เกรงจะเป็นปัญหาเรื่องของการพกพาอาวุธอีก หรือไม่ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจแก้ไขเรื่องนี้ไม่ได้ พวกตนก็อาจจะต้องหยุดประกอบอาชีพไปสักพักหนึ่ง

พล.ต.ต.ประเสริฐ จันทร์สว่าง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ออกมาชี้แจงต่อผู้ประกอบการรับซื้อยางพารา ว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ แต่ที่ผ่านมาได้รับการแจ้งความเพียง 4 รายเท่านั้น และสามารถจับกุมคนร้ายได้ 2 คดี ส่วนอีก 2 คดี ทราบเบาะแสคนร้าย และกำลังออกหมายจับแล้ว ส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัยนั้น ก็ได้มีการประชุมหัวหน้า และชุดสืบสวนของทุกสถานีตำรวจ เป็นประจำทุกวันจันทร์และวันพุธ เพื่อหามาตรการในการเฝ้าระวัง แต่อยากฝากไปยังผู้ประกอบการให้มีการติดกล้องวงจรปิด และช่วยกันสังเกตคนร้าย หรือบุคคลที่แปลกปลอม ซึ่งถ้าหากสงสัยให้รีบแจ้งให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับทราบทันที

นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อผู้ประกอบการรับซื้อยางพารา ว่า ตนจะนำปัญหาเรื่องความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ของผู้ประกอบการรับซื้อยางพาราของจังหวัดตรัง ร่วมหารือกับ นายสมพงษ์ อนุยุทธพงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง คนใหม่ ซึ่งเพิ่งจะเดินทางมารับราชการในวันนี้ (19 ต.ค.) เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยที่ผ่านมาตนเองคอยติดตามข่าวคราวมาโดยตลอด โดยเฉพาะทุกๆ ครั้งที่มีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการ และไม่เห็นด้วยต่อการที่ผู้ประกอบการออกมาระบุว่า จะหยุดรับซื้อยางพาราเป็นระยะเวลา 6 เดือน เพราะจะทำให้เกิดผลกระทบต่อเกษตรกรรายย่อย

ส่วนกรณีที่เกษตรกรชาวสวนยางพาราในจังหวัดตรังและในภาคใต้ ออกมาได้เรียกร้องให้ทางรัฐบาลแก้ไขปัญหายางพาราที่มีราคาตกต่ำลงกว่า 50 % จนทำให้เกษตรกรบางคนต้องหยุดการกรีดยางพารา ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีพ เพราะรายได้ไม่เพียงพอต่อรายจ่าย ในขณะที่ค่าครองชีพก็อยู่ในอัตราที่สูง ทำให้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมากนั้น นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล ส.ส.ตรัง เขต 2 พรรคประชาธิปัตย์ นำปัญหานี้ไปพูดในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ทางรัฐบาลหาทางแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้โดยเร่งด่วน

สำหรับเหตุการณ์ปล้นทรัพย์ หรือชิงทรัพย์ ผู้ประกอบการรับซื้อยางพาราในจังหวัดตรัง โดยเฉพาะในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา เกิดขึ้นมาแล้วนับสิบๆ คดี แต่คดีที่ถือได้ว่าโหดเหี้ยมและสะเทือนขวัญมากที่สุดมีอยู่ 2 คดี คือ คดีที่ 2 คนร้ายใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์พ่อค้ารับซื้อยางพาราแผ่นดิบ ทำให้ นายประวิง วงศ์ชู อายุ 35 ปี และนายประจบ จิตรหลัง อายุ 47 ปี เสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนสายบางสัก-บ้านน้ำราบ หมู่ที่ 4 ตำบลบางสัก อำเภอกันตัง เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 23 กันยายน 2551 ซึ่งครั้งนั้นคนร้ายได้เงินสดไปเกือบ 300,000 บาท

ส่วนอีกราย เป็นคดีที่ 2 คนร้ายใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์พ่อค้ารับซื้อยางพาราแผ่นดิบอีกเช่นกัน ทำให้ นายสะอาด วังพยอม อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58/1 หมู่ที่ 1 ตำบลโคกหล่อ อำเภอเมืองตรัง เสียชีวิต และ นายวีระ จูห้อง อายุ 48 ปี อยู่เลขที่ 10/1 ถนนตรัง-สิเกา หมู่ที่ 1 ตำบลหนองตรุด อำเภอเมืองตรัง บาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดภายในร้านรับซื้อยางพาราแผ่นดิบ หมู่ที่ 1 ตำบลหนองตรุด เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 15 ตุลาคม 2551 ซึ่งครั้งนั้นคนร้ายได้ทรัพย์สิน เป็นเงินสด สร้อยคอทองคำรูปพรรณ และอาวุธปืน ไปรวมเป็นเงินมูลค่าเกือบ 50,000 บาท



กำลังโหลดความคิดเห็น