สุราษฎร์ธานี - ตำรวจภูธรภาค 8 ร่วมตำรวจกระบี่รวบแก๊งปล้นยางแผ่นพร้อมของกลาง ขณะเกิดเหตุดวลปืนตำรวจพลาดท่ารถเสียหลักพลิกคว่ำข้างทางได้รับบาดเจ็บ 1 นาย
ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาร่วมกันปล้นยางแผ่นพื้นที่ สภ.เขาพนม จ.กระบี่ ได้ 6 คน ภูมิลำเนาเดิมอยู่ จ.พัทลุง โดยจับกุมได้ขณะทำความผิด 2 คน คือ
นายสมชาย บางแก้ว อายุ 44 ปี และ นายแก้ว (นามสมมติ) อายุ 17 ปี และจับกุมตามหมายจับอีก 4 คน คือ นายอำนาจ ไกรนรา อายุ 42 ปี, นายสมนึก แกนสัง อายุ 45 ปี นายขวด (นามสมมติ) อายุ 17 ปี และนายน้ำ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี โดยตำรวจยึดของกลางประกอบด้วย รถยนต์กระบะ มาสด้า สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บต- 2525 พัทลุง 1 คัน แผ่นยางพาราของกลาง 455 แผ่น ค้อนปอนด์ 1 อันพร้อมด้ามจับ โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง เสื้อผ้าคนร้าย 2 ชุด รองเท้าคนร้าย 2 คู่ รับสารภาพก่อเหตุในหลายพื้นที่ทำมาแล้ว 5-6 ครั้ง
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.ภ.8 ให้เร่งรัดสืบสวนจับกุมคดีค้างเก่าโดยเฉพาะคดีคนร้ายปล้นทรัพย์ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของประชาชน เช่น ยางพารา และปาล์มน้ำมัน ที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของภาค 8
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.วันที่ 9 มกราคม ตำรวจสายตรวจตำบลโคกหาร อ.เขาพนม จ.กระบี่ ได้รับแจ้งว่า มีเหตุปล้นทรัพย์ยางพารา คนร้ายประมาณ 4-5 คน เข้าไปทำการปล้นทรัพย์ยางพาราที่สวนยางพารา ม.2 ต.โคกหาร ของนายเฉลิมพล เครือจันทร์ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81 ม.4 ต.สินปุน อ.เขาพนม จ.กระบี่ จึงร่วมกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ชุดรักษาความสงบหมู่บ้าน ไปปิดล้อมที่เกิดเหตุ ปรากฏว่า กลุ่มคนร้ายได้ขับรถยนต์บรรทุกยางพาราสวนทางออกมา และเกิดการปะทะ ยิงต่อสู้กัน แต่คนร้ายหลบหนีไปได้ ไม่มีผู้บาดเจ็บ เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามไปตามถนนสายบ้านมะม่วงเอน-บ้านบ่อโหด กระทั่งรถยนต์คนร้ายเสียหลักตกข้างถนนสายลำทับ-ทุ่งใหญ่ ม.1 ต.กุแหระ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ก่อนแยกย้ายกันหลบหนี
พ.ต.อ.เอกวัฒน์ โพธิเย็นญาติ ผกก.สภ.เขาพนม จ.กระบี่ พร้อมชุดสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมนาย สมชาย บางแก้ว อายุ 44 ปี ได้ขณะกำลังรักษาตัวที่โรงพยาบาลทุ่งสง เนื่องจากได้รับบาดเจ็บจากรถเสียหลักตกลงข้างทาง โดยรับสารภาพว่าร่วมกับพวกที่หลบหนีปล้นทรัพย์ยางแผ่นพาราและยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง
จากนั้นได้กระจายกำลังออกติดตาม จนกระทั่งเวลาประมาณ 03.00 น.วันที่ 10 มกราคม ตำรวจจับกุมนายแก้ว อายุ 17 ปี หนึ่งในกลุ่มคนร้ายที่หลบหนีได้ ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ในป่าละเมาะห่างจากรถยนต์กระบะที่เสียหลักตกข้างถนนประมาณ 300 เมตร อยู่ในอาการบาดเจ็บ รับสารภาพ และยืนยันว่า มีพวกที่ร่วมปล้นชื่อ นายสมคิด หรือเอก แกนสัง และนายขวด ญาติกันร่วมกันปล้นทรัพย์ยางพาราในครั้งนี้แล้วหลบหนีไปได้
จึงระดมกำลังติดตามไล่ล่าจนทราบว่าผู้ต้องหาส่วนใหญ่มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.พัทลุง ไม่ชำนาญเส้นทางหลบหนี และมีนายอำนาจ ไกรนรา และนายสมนึก แกนสัง อยู่เบื้องหลัง โดยคนร้ายที่ก่อเหตุทั้งหมด 6 คน จับกุมในที่เกิดเหตุได้ 2 คน จึงออกหมายจับกุมอีก 4 คน และจับกุมนายสมคิด หรือเอก แกนสัง และนายทนงศักดิ์หรือเอ แกนสัง ได้ขณะนั่งรถไฟหลบหนีได้ที่ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ขณะกำลังจะหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ โดยนายอำนาจ ไกรนรา และนาย สมนึก แกนสัง จับกุมตามหมายศาลจังหวัดกระบี่
นายสมคิด รับสารภาพว่า ร่วมกับพวกดังกล่าว ก่อเหตุในลักษณะเดียวกันในพื้นที่ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช อ.ลำทับ, อ.คลองท่อม อ.เขาพนม จ.กระบี่ มาแล้วประมาณ 5-6 ครั้ง จึงแจ้งข้อหา “ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมี และใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ร่วมกันมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน และพกพาอาวุธปืนติดตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต”
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวว่า ผู้ต้องหากลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีภูมิลำเนาเดิมอยู่ จ.พัทลุง มีความสัมพันธ์เป็นพ่อลูก และกลุ่มญาติพี่น้องทำกันเป็นครอบครัวที่เข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ภาค 8 ซึ่งก่อเหตุปล้นยางมาแล้วหลายพื้นที่ ประมาณเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา กระทำความผิดที่ ต.พรุขี้กา อ.ลำทับ จ.กระบี่, ก่อเหตุที่ ต.พรุดินนา อ.คลองท่อม จ.กระบี่, ต.เพหลา อ.คลองท่อม จ.กระบี่
เดือนกันยายน ก่อเหตุที่บ้านห้วยเสียด ต.ทรายขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่, วันที่ 4 มกราคาที่ผ่านมา ก่อเหตุที่ ม.2 ต.ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช และวันที่ 9 มกราคม ก่อเหตุที่ ม.2 ต.โคกหาร อ.เขาพนม จ.กระบี่ จนกระทั่งถูกจับกุมได้ดังกล่าว
