ตาก – ชายแดนตากเดือดทหารพม่าร่วมมือ ทหารกะเหรี่ยงพุทธ (DKBA) ระดมกำลังพร้มอาวุธหนักยิงถล่ม ฐานที่มั่นกะเหรี่ยง KNU ผบก.ฉก. สั่งตรึงกำลังทหารแนวเขตชายแดนหวั่นรุกล้ำอธิไตย ยันการสู้รบไม่กระทบไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตากว่า พ.อ.ผดุง ยิ่งไพบูลย์สุข ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 แม่สอด ได้สั่งการให้ทหารเข้าตรึงกำลังบริเวณชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.พบพระ จ.ตาก เพื่อป้องกันการลุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังต่างชาติที่ไสู้รบกัน บริเวณบ้านห้วยน้ำดั้น และบ้านยะพอ ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ
ภายหลังกองกำลังทหารรัฐบาลพม่า หรือ SPDC ร่วมกับกองกำลังแนวร่วม SPDC หรือทหารกะเหรี่ยงพุทธ DKBA ภายใต้การนำของพันเอกนะคะมวย ผู้บังคับการยุทธวิธี กองพลน้อยที่ 999 ซึ่งมีฐานปฎิบัติการอยู่ด้านตรงข้ามอำเภอพบพระ จ.ตาก เข้าโจมตีที่มั่นฝ่ายกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงอิสระ KNU กองพันที่ 201 ซึ่งมีฐานปฎิบัตการอยู่บริเวณบ้านน้ำดั้นรอยต่อบ้านยะพอ ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเคเอ็นยู ภายใต้การนำของ พล.ต.เนอดาเมียะ ผู้บัญชาการกองบัญ๙การใหญ่กองทัพ KNUบุตรชายนายพลโบเมียะ(อดีตผู้นำทางทหารกะเหรี่ยง)
กองกำลังทั้ง 2 ฝ่าย ได้ยิงปะทะกันด้วยอาวุธปืนหนักทั้งอาร์พีจี, เอ็ม 79, อาวุธเอ็ม 16, จี 2 และจี 3 อย่างหนักนานกว่า 1 ชั่วโมง ถึงขณะนี้ยังไม่ทราบความเสียหายใดๆ ขณะที่ฝ่ายกะเหรี่ยงคริสต์ KNU ได้ตอบโต้อย่างหนักเช่นกัน การสู้รบดังกล่าวมีทหารไทยจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 อำเภอแม่สอด ตรึงกำลังตามแนวชายแดนอยู่ เพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของฝ่ายไทย
ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 อำเภอแม่สอด กล่าวว่า การสู้รบที่เกิดขึ้นเป็นการสู้รบในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อเขตไทย และห่างไกลจากหมู่บ้านชายแดนไทยประมาณ 5-7 กม. อย่างไรก็ตาม ทหารไทยได้นำกำลังเข้าไปยังหมู่บ้านชาวไทยเพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัย และดูแลชีวิตและทรัพย์สินคนไทยอย่างดีที่สุด
สำหรับฝ่ายทหารกะเหรี่ยง มีกองกำลังที่ตั้งรับฝ่ายพม่าประมาณกว่า 100 นาย การสู้รบครั้งนี้เป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดในรอบปี 2552 และเกิดก่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์เพียงไม่กี่วัน เป็นสัญญาณอย่างหนึ่งที่เตือนว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ ทหารพม่าและดีเคบีเอจะร่วมกันกวาดล้างปราบปรามกองกำลังกะเหรี่ยงคริสต์เคเอ็นยูอย่างหนัก แนวโน้วการสู้รบจะรุนแรงขึ้นเพราะทั้ง 2 ฝ่ายต้องการแย่งชิงพื้นที่และเขตอิทธิพล ในการหารายได้ จากแหล่งแร่ ทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้ ภาษีสินค้านำเข้าและผลประโยชน์อื่นๆ ตามแนวชายแดน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตากว่า พ.อ.ผดุง ยิ่งไพบูลย์สุข ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 แม่สอด ได้สั่งการให้ทหารเข้าตรึงกำลังบริเวณชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.พบพระ จ.ตาก เพื่อป้องกันการลุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังต่างชาติที่ไสู้รบกัน บริเวณบ้านห้วยน้ำดั้น และบ้านยะพอ ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ
ภายหลังกองกำลังทหารรัฐบาลพม่า หรือ SPDC ร่วมกับกองกำลังแนวร่วม SPDC หรือทหารกะเหรี่ยงพุทธ DKBA ภายใต้การนำของพันเอกนะคะมวย ผู้บังคับการยุทธวิธี กองพลน้อยที่ 999 ซึ่งมีฐานปฎิบัติการอยู่ด้านตรงข้ามอำเภอพบพระ จ.ตาก เข้าโจมตีที่มั่นฝ่ายกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงอิสระ KNU กองพันที่ 201 ซึ่งมีฐานปฎิบัตการอยู่บริเวณบ้านน้ำดั้นรอยต่อบ้านยะพอ ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเคเอ็นยู ภายใต้การนำของ พล.ต.เนอดาเมียะ ผู้บัญชาการกองบัญ๙การใหญ่กองทัพ KNUบุตรชายนายพลโบเมียะ(อดีตผู้นำทางทหารกะเหรี่ยง)
กองกำลังทั้ง 2 ฝ่าย ได้ยิงปะทะกันด้วยอาวุธปืนหนักทั้งอาร์พีจี, เอ็ม 79, อาวุธเอ็ม 16, จี 2 และจี 3 อย่างหนักนานกว่า 1 ชั่วโมง ถึงขณะนี้ยังไม่ทราบความเสียหายใดๆ ขณะที่ฝ่ายกะเหรี่ยงคริสต์ KNU ได้ตอบโต้อย่างหนักเช่นกัน การสู้รบดังกล่าวมีทหารไทยจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 อำเภอแม่สอด ตรึงกำลังตามแนวชายแดนอยู่ เพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของฝ่ายไทย
ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 อำเภอแม่สอด กล่าวว่า การสู้รบที่เกิดขึ้นเป็นการสู้รบในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อเขตไทย และห่างไกลจากหมู่บ้านชายแดนไทยประมาณ 5-7 กม. อย่างไรก็ตาม ทหารไทยได้นำกำลังเข้าไปยังหมู่บ้านชาวไทยเพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัย และดูแลชีวิตและทรัพย์สินคนไทยอย่างดีที่สุด
สำหรับฝ่ายทหารกะเหรี่ยง มีกองกำลังที่ตั้งรับฝ่ายพม่าประมาณกว่า 100 นาย การสู้รบครั้งนี้เป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดในรอบปี 2552 และเกิดก่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์เพียงไม่กี่วัน เป็นสัญญาณอย่างหนึ่งที่เตือนว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ ทหารพม่าและดีเคบีเอจะร่วมกันกวาดล้างปราบปรามกองกำลังกะเหรี่ยงคริสต์เคเอ็นยูอย่างหนัก แนวโน้วการสู้รบจะรุนแรงขึ้นเพราะทั้ง 2 ฝ่ายต้องการแย่งชิงพื้นที่และเขตอิทธิพล ในการหารายได้ จากแหล่งแร่ ทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้ ภาษีสินค้านำเข้าและผลประโยชน์อื่นๆ ตามแนวชายแดน