ตาก - ฝ่ายปกครอง-UNHCR-NGO ตั้งวงถกชะตากรรมผู้อพยพชาวกะเหรี่ยงเกือบ 3 พันคน ที่หนีภัยสงครามระหว่างทหารพม่า ที่สนธิกำลังกับกะเหรี่ยงพุทธถล่ม KNU จนต้องหนีข้ามมาอยู่ฝั่งไทย
วันนี้ (30 มิ.ย.) นายโภคากรณ์ สินสกลวัฒน์ นายอำเภอท่าสองยาง จ.ตาก ได้ร่วมประชุมระหว่างฝ่ายปกครอง ฝ่ายทหาร และสำนักข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR และองค์กรพัฒนาเอกชนเพื่อพิจารณาหาสถานที่ให้ผู้อพยพลี้ภัยชาวกะเหรี่ยง สัญชาติพม่าที่หนีภัยจากการสู้รบระหว่างทหารรัฐบาลพม่า SPDC ที่สนธิกำลังกับกะเหรี่ยงพุทธ DKBA ในการเข้าโจมตีกะเหรี่ยงคริสต์ KNU ที่ชายแดนไทย-พม่า อ.ท่าสองยาง และเข้ามาในพื้นที่ ต.แม่สอง ต.แม่อุสุ อ.ท่าสองยาง เกือบ 3,000 คน ซึ่งได้มีการตรวจดูในเรื่องความพร้อม คือ อาคารและอุปกรณ์การอาศัยอยู่
ส่วนสถานที่นั้นในเบื้องต้นมีแนวคิดว่าจะให้ผู้ลี้ภัยทั้งหมดไปรวมกันที่บ้านชิโน๊ะ ต.แม่อุสุ แต่จะต้องหารือกันในที่ประชุมอีกครั้งหนึ่ง
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับผู้อพยพหลบหนีภัยสงครามชาวกะเหรี่ยง ยังคงอาศัยอยู่ที่วัดบ้านหนองบัว, บ้านแม่ตะวอ ต.แม่สอง และบ้านทุ่งถ้ำ ต.แม่อุสุ และบางส่วนกระจัดกระจายอยู่กับญาติพี่น้องและคนรู้จัก แต่ยังมีปัญหาเรื่องโรคระบบทางเดินหายใจ โรคท้องร่วงและโรคมาลาเรียที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากอยู่ในพื้นที่นานเกิน
นายประเสริฐ สอนเจริญทรัพย์ สาธารณสุขอำเภอท่าสองยาง กล่าวว่า ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่เพิ่มการดูแลผู้ป่วยแล้ว และจะมีการเสนอในที่ประชุมโดยขอให้ทาง NGO เร่งดำเนินการช่วยเหลือด้านยา และเวชภัณฑ์ให้กับผู้ลี้ภัยอย่างเร่งด่วนด้วย
ส่วนสถานการณ์การสู้รบระหว่างฝ่ายกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง KNU เริ่มเงียบสงบ หลังจากที่ฝ่ายกะเหรี่ยง DKBA ถูกซุ่มโจมตีหนักและต้องเผชิญปัญหากับการเหยียบกับระเบิดในพื้นที่ KNU เดิม
