ตาก- ทหารไทยตั้งโต๊ะถก DKBA เตรียมส่งผู้อพยพชาวพม่าหนีภัยการสู้รบข้ามไปยังฝั่งประเทศพม่าหลังเหตุการณ์สงบ ขณะที่กะเหรี่ยงฯ ขออาหารช่วย 3 เดือน
พ.อ.นพดล วัชรจิตบวร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพราน ที่ 35 ได้ประธานการประชุมร่วมกับ พ.ท.ลาเซ่ ผู้บังคับกองพัน เคลื่อนที่เร็ว กองกำลังกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตย หรือ DKBA นายดีแคว แกนนำ ผู้ดูแลผู้อพยพชาวกะเหรี่ยงสัญชาติพม่าที่หลบหนีภัยสงครามจากการสู้รบและมาอาศัยฝั่งไทย ผู้แทนฝ่ายปกครอง อ.ท่าสองยาง, เจ้าหน้าที่ UNHCR ที่ห้องประชุมหมู่บ้านหนองบัว ต.แม่อุสุ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก เมื่อ 26 ส.ค.52
ทั้งนี้ เนื่องจากเมื่อเดือนมิถุนายน 2552 ที่ผ่านมา กองกำลังทหารรัฐบาลพม่า SPDC ร่วมกับกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธ DKBA ได้เข้าโจมตีค่ายของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงอิสระ KNU ตรงข้ามบ้านหนองบัว ต.แม่อุสุ โดยมีราษฎรชาวกะเหรี่ยงได้หลบหนีภัยสงครามการสู้รบเข้ามาประมาณกว่า 2,000 คน และอาศัยในฝั่งไทย 4 แห่ง โดยทางการไทยร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศได้ให้ร่วมช่วยเหลือตามมนุษยธรรม ซึ่งบางส่วนได้ข้ามกลับไปยังภูมิลำเนาเดิมแล้ว แต่ยังเหลืออีกประมาณ 1,200 กว่าคน ยังอยู่ในไทย
ที่ประชุมได้หารือถึงการนำคนที่เหลือข้ามกลับไป ซึ่งที่ประชุมมีความเห็นร่วมกันว่าจะนำส่วนที่เหลือกลับ โดยทางกองกำลังดีเคบีเอ จะเตรียมหาพื้นที่ปลอดภัยติดชายแดนไทยให้อยู่อาศัย หากเกิดเหตุการณ์ไม่สงบจะได้หนีข้ามมายังฝั่งไทยได้สะดวก
ส่วนผู้ดูแลผู้อพยพชาวกะเหรี่ยงได้ร้องขอให้รับรองความปลอดภัย พร้อมที่จะเดินทางกลับ รวมถึงจัดอาหารสนับสนุนในระยะเวลา 3 เดือน ในการที่กลับไปฝั่งพม่า ซึ่งทาง UNHCR พร้อมที่จะสนับสนุนช่วยเหลือด้านอาหารและอื่นๆ ในระยะเวลานี้
ขณะเดียวกัน ได้มีการคัดกรองแยกบุคคลที่แฝงเข้าอาศัยในที่พื้นที่แรกรับ ซึ่งบุคคลเหล่านี้ได้ฉวยโอกาสเป็นผู้หลบหนีภัยการสู้รบเข้ามาอาศัยอยู่ด้วยเพื่อหวังรับสิ่งของบริจาคต่างๆ ซึ่งบุคคลเหล่านี้หลบได้หนีเข้ามาอาศัยในประเทศไทยเป็นเวลานานแล้ว สำหรับผู้ที่คัดแยกออกไปมีจำนวน 741 คน โดยทยอยรื้อที่พักและออกไปจากพื้นที่แรกรับ
พ.อ.นพดล กล่าวว่า จากการพูดคุยเจรจาวันนี้ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถตกลงกันได้ดี ถ้านำคนกลับประเทศพม่าได้ ปัญหาต่างๆ จะได้หมดสิ้นไป โดยประเทศไทยไม่ต้องรับภาระต่างๆ ที่ตามมาในอนาคต เพราะขณะหนีปัญหาเกี่ยวกับผู้อพยพหลบหนีภัยสงครามมาอาศัยในประเทศไทยมีจำนวนมากอยู่แล้ว
