ตาก - ฉก.ร.4 วางกำลังชายแดนป้องกันการรุกล้ำอธิปไตย และดูแลชีวิตและทรัพย์สินคนไทย หลังทหารพม่าสนธิกำลังกะเหรี่ยงพุทธ DKBA โจมตีกะเหรี่ยงคริสต์ พร้อมยึดฐานที่มั่นใหญ่ KNU ได้
พ.อ.ผดุง ยิ่งไพบูลย์สุข ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 อำเภอแม่สอด ได้สั่งการให้ทหาร ฉก.ร. 4 นำกำลังและรถถังและรถหุ้มเกราะ พร้อมอาวุธครบมือไปตรึงกำลังบริเวณตามแนวชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.พบพระ จ.ตาก เพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สินคนไทยที่อาศัยอยู่หมู่บ้านชายแดน รวมทั้งการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังต่างชาติจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน
หลังจากกองกำลังทหารรัฐบาลพม่า หรือ SPDC กองพันที่ 356 ร่วมกับทหารกะเหรี่ยงพุทธ DKBA กองพันที่ 907 บุกยึดฐานที่มั่นของทหารกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงอิสระ KNU สังกัดกองร้อยที่ 101 กองพัน 201 ค่ายวาเล่ย์คี บ้านห้วยน้ำดั้น ตรงข้าม ตำบลวาเล่ย์ อำเภอพบพระ จ.ตาก ได้แล้ว
ภายหลังหลังจากที่ทั้ง 2 ฝ่ายได้ปะทะกันด้วยอาวุธหนัก และอาวุธประจำกายเป็นเวลานานนับชั่วโมง โดยฝ่ายพม่าและแนวร่วม ดีเคบีเอ มีกองกำลังที่มากกว่า และรุกคืบเข้าโจมตีฝ่ายกะเหรี่ยงคริสต์ หรือกะเหรี่ยงเคเอ็นยู ต้องถอยร่นทิ้งฐานที่มั่น ล่าถอยออกไป
นายทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยูสังกัดกองพลที่ 6 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ทางด้านทิศใต้ของอำเภอแม่สอด ไปจนถึงอำเภออุ้มผาง จ.ตาก กล่าวว่า ฝ่ายเคเอ็นยูยอมถอยให้ฝ่ายพม่า เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสีย ส่วนทหารพม่าได้เผาทำลายยุ้งฉางข้าว และเรือนพักทหารไปทั้งหมด คาดว่า ฝ่ายทหารรัฐบาลพม่าจะเข้าโจมตีฐานที่มั่นค่ายอื่นๆ บริเวณแนวชายแดนไทย-พม่าทุกแห่ง รวมทั้งที่ตั้งกองบัญชาการใหญ่ และที่ตั้งกองพันรบพิเศษที่ 201 ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์คี ตำบลวาเล่ย์
สำหรับการสูญเสียด้านกำลังพล และทหารที่เสียชีวิตนั้น ขณะนี้ยังไม่ทราบผล แต่เชื่อว่าการสู้รบครั้งนี้ทั้ง 2 ฝ่ายต้องได้รับความสูญเสียอย่างแน่นอน
รายงานข่าวแจ้งว่า สถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารพม่าและดีเคบีเอกับฝ่ายกะเหรี่ยงคริสต์ เคเอ็นยูยังคงตึงเครียดและยังไม่น่าไว้วางใจ เพราะกะเหรี่ยงเคเอ็นยูยังมีที่ท่าว่าต้องการที่จะยึดฐานที่มั่นดังกล่าวคืน
