ตาก - ผู้นำ KNU ถูกห้ามเดินทางเข้าไทย พร้อมห้ามทำกิจกรรมใดๆ ทั้งด้านการทหาร-การเมืองในฝั่งไทย ขณะที่กองทัพพม่าเริ่มระดมพล คาดเตรียมถล่มชนกลุ่มน้อยแล้งนี้
นายเดวิท ทรอ คณะกรรมการกลางและรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงอิสระ KNU หรือกองกำลังกะเหรี่ยงคริสต์ กล่าว ณ ฐานที่มั่นแห่งหนึ่งชายแดนไทย-พม่า ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก วันนี้ (19 มี.ค.)ว่า นายพลตามาราบอ ประธานาธิบดี KNU พร้อมผู้นำกะเหรี่ยงคนอื่นๆ เช่น นายทูทูเลย์ เลขาธิการคนที่ 1-นายพลมูตู ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้นำระดับสูงของกองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นยูอีกหลายคนถูกห้ามเดินทางเข้า อ.แม่สอด จ.ตาก
นับตั้งแต่ทางการไทยสั่งให้ผู้นำเคเอ็นยูเดินทางออกจากไทย ภายในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2552 เช่นเดียวกับผู้นำกองกำลัง KNLA ซึ่งเป็นกองกำลังในสังกัดของเคเอ็นยูก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าไทยเช่นเดียวกัน
รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงอิสระ KNU กล่าวเพิ่มเติมว่า นโยบายของไทยในวันนี้แตกต่างจากเมื่อก่อน ทางการไทยไม่ต้องการให้ผู้นำเคเอ็นยูอยู่ในประเทศไทย
แหล่งข่าวจากฝ่ายความมั่นคงไทยระบุ ผู้นำเคเอ็นยูที่ถูกผลักดันออกจากไทย หากต้องการเดินทางเข้า อ.แม่สอด จ.ตาก อีกครั้งจะต้องได้รับอนุญาตจากทางการไทย โดยไม่สามารถทำกิจกรรมใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทหารในไทย
ทั้งนี้ กองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงอิสระ เคเอ็นยู ได้เริ่มจับปืนสู้รบโดยแยกตัวออกจากการปกครองของรัฐบาลพม่าตั้งแต่ปี 2491 ก่อนที่จะสูญเสียฐานที่มั่นใหญ่ค่ายมาเนอปลอว์ รวมทั้งค่ายคอมูล่า 101 ในรัฐกะเหรี่ยงเมื่อปี 2538 ต่อมาได้เคลื่อนย้ายศูนย์บัญชาการและเคลื่อนไหวใกล้ชายแดนไทย-พม่า และต่อสู้กับทหารพม่าด้วยยุทธวิธีแบบกองโจร
รายงานข่าวแจ้งว่า กองทัพพม่าได้เพิ่มกำลังทหารเข้ามาในรัฐกะเหรี่ยงอย่างต่อเนื่องในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กองทัพพม่ามักจะโจมตีกองทัพกะเหรี่ยง KNU นอกจากนี้ทหารพม่ายังได้เคลื่อนกำลังพลไปยังในเมืองจาอินเซกจี ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ของกองทัพ KNLA ที่เข้าไปเคลื่อนไหวอีกด้วยคาดว่าในฤดูแล้งนี้ทหารพม่า จะมีการปราบปรามกองกำลังชนกลุ่มน้อยฝ่ายต่อต้านรัฐบาลครั้งใหญ่
