ยิงแกนนำต้านเปิดเสรีค้าชาอาเซียนดับกลางเมืองเชียงราย

เชียงราย – ยิงประธานสหกรณ์ชาฯเชียงราย แกนนำต้านภาษี-เอฟทีเอดับ ตำรวจตั้งปมขัดผลประโยชน์ทางธุรกิจ

รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 มี.ค.) ร.ต.ท.อาณัติ กาวิชา ร้อยเวร สภ.เมือง จ.เชียงราย ได้รับแจ้งมีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสภายในร้านสุวิรุฬห์ชาไทย เลขที่ 175 ตั้งอยู่สี่แยกสุริวงศ์ ถนนธนาลัย ต.เวียง อ.เมือง ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายใบชาชื่อดังและเก่าแก่ของ จ.เชียงราย จึงรายงานให้ พ.ต.อ.จรัญ เริงธรรม ผกก.สภ.เมือง ,พ.ต.ท.อนันต์เดช ยาวิชัย รอง ผกก.ป., พ.ต.ท.สมชาย มีอนันต์ รอง ผกก.สส. ,พ.ต.ต.สรัญรัฐ ชยนนท์ สว.สส.จากนั้นพร้อมกันไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

จากการตรวจสอบพบที่เกิดเหตุเป็นร้านที่สร้างด้วยไม้สัก 2 ชั้นเก่าแก่ริมถนนธนาลัย โดยจำหน่ายชาเขียว ชาอู่หลง ฯลฯ และมีผลิตภัณฑ์ชาตั้งจำหน่ายอยู่เต็ม ส่วนจุดเกิดเหตุอยู่ที่หลังร้านพบกองเลือดกองอยู่เต็มพื้นซึ่งเป็นกระเบื้อง สำหรับผู้ถูกยิงทราบชื่อต่อมาว่านายกำจร มานิตย์วิรุฬห์ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 126 หมู่ 5 ต.ป่าก่อดำ อ.แม่ลาว จ.เชียงราย เจ้าของร้านชาสุวิรุฬห์ชาไทย และเป็นประธานสหกรณ์ชาไทยเชียงราย โดยถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่หน้าท้องจำนวน 2 นัด ชายโครงขวาอีก 1 นัด รวมทั้งหมด 3 นัด ซึ่งญาติได้ช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ไปก่อนหน้านี้แล้ว

สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายกำจรกำลังทำงานอยู่ที่โต๊ะด้านหลังร้านตามปกติ แต่มีคนร้ายเป็นชายจำนวน 2 คนเดินเข้าไปในร้าน คนแรกรูปร่างท้วมสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน ส่วนอีกคนสวมกางเกงยีนและเสื้อสีดำ เมื่อเข้าไปถึงตัวนายกำจร คนแรกก็ชักอาวุธปืนจ่อยิงในระยะเผาขนจนนายกำจร ล้มลงกับพื้น ก่อนที่ทั้ง 2 คนจะวิ่งหนีออกไปร้านตรงไปทางสามแยกโรงเรียนสามัคคีวิทยาคมซึ่งอยู่ถัดไป และขึ้นรถยนต์กระบะไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียนหลบหนีไป

เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังกันออกค้นหาและแบ่งกำลังไปตรวจดูอาการของนายกำจรที่โรงพยาบาล แต่ปรากฎว่าเจ้าตัวทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานสาเหตุของปมสังหารเอาไว้อย่างกว้างๆ ว่าเกิดจากการขัดผลประโยชน์ในธุรกิจ

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้นายกำจรถือเป็นแกนนำคนสำคัญในการนำชาวบ้านที่ปลูกชาชุมนุมต่อต้านการเปิดเสรีการค้าใบชาในกลุ่มอาเซียน โดยเมื่อปี 2551 เคยยื่นหนังสือถึงกระทรวงการคลังมาแล้ว และล่าสุดได้นำกลุ่มนักธุรกิจใบชาใน จ.เชียงราย ออกแถลงการณ์ต่อต้านการนำเอาชาไปผนวกอยู่กับเครื่องดื่มที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น สุรา เครื่องดื่มบำรุงกำลัง ฯลฯ และจัดเก็บภาษีสรรพสามิตในอัตราเดิมกัน ปัจจุบันนายกำจร ยังเป็นเจ้าของไร่ชาสุวิรุฬห์ ซึ่งมีเนื้อที่กว่า 600 ไร่ที่ ต.ป่าก่อดำ อ.แม่ลาว ซึ่งผลิตใบชาคุณภาพดีส่งไปจำหน่ายที่ร้านที่เกิดเหตุและส่งออกไปยังต่างประเทศโดยเฉพาะไต้หวันมานานกว่า 20 ปีแล้ว