ตาก- นายก ส.ท.ท.นำทัพนายกเทศมนตรี และผู้นำท้องถิ่น พบนายกรัฐมนตรี ให้กำลังใจและเป็นการทำหน้าที่ตามระบอบประชาธิปไตย
นายประภัสร์ ภู่เจริญ นายกเทศมนตรีเมืองลำพูน ในฐานะนายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย (ส.ท.ท.), นายเทอดเกียรติ ชินสรนันทร์ นายกเทศมนตรีเมืองแม่สอด จ.ตาก ในฐานะคณะกรรมการกระจายอำนาจ, นายสุรพล สันติโชตินันท์ นายกเทศมนตรีตำบลแม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน แกนนำ ส.ท.ท. พร้อม นายกเทศมนตรีและกรรมการบริหาร ส.ท.ท.กว่า 400 คนจากทั่วประเทศ ได้เดินทางเข้าพบเพื่อให้กำลังใจกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ-ประธานสภา และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร
นอกจากนี้ยังจะให้กำลังใจกับ ส.ส.ในสภา เป็นการทำหน้าที่ตามระบอบประชาธิปไตยของ ส.ท.ท.และผู้บริหารท้องถิ่น ที่บริเวณหน้าสำนักงานสโมสรรัฐสภาในวันนี้ (20 มี.ค.)
นายประภัสร์กล่าวว่า และในวันที่ 25 มีนาคม 2552 ซึ่งเป็นการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนั้น ที่ประชุมจะมีการประชุมเพื่อพิจารณา แก้ไขเพิ่มเติมร่าง พ.ร.บ.ท้องถิ่น 4 ฉบับ ประกอบด้วย พรบ.เทศบาล อบต. อบจ. และเมืองพัทยา เข้าสู่วาระ 2 และ 3 หลังคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแก้ไข พ.ร.บ.ท้องถิ่น พิจารณาแล้วเสร็จ โดย ทุกฝ่ายเห็นด้วยกับการแก้ไข พ.ร.บ.ท้องถิ่นทั้ง 4 ฉบับ
ในวันนั้นจะมีคณะกรรมการ ส.ท.ท. นายกเทศมนตรี และผู้บริหารท้องถิ่นจำนวนกว่า 1,500-2,000 คน เดินทางมาร่วมรับฟังการประชุมที่รัฐสภา ทางผู้บริหารท้องถิ่นขอขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาล-พรรคฝ่ายค้าน รวมทั้งประธานวิปฝ่ายรัฐบาลและประธานวิปฝ่ายค้าน รวมทั้ง ส.ส.ทุกท่าน ที่ได้นำเรื่องการแก้ไข พ.ร.บ.ท้องถิ่น ทั้ง 4 ฉบับ เข้าสู่การพิจารณา และเท่าที่ทราบทุกฝ่ายต่างเห็นด้วยในเรื่องนี้
สำหรับสาระสำคัญของการแก้ไข พ.ร.บ.ท้องถิ่นดังกล่าวคือการปลดล็อก 2 วาระ ผู้บริหารท้องถิ่น
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการกระจายอำนาจองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กล่าวถึงการเดินทางมาพบนายกรัฐมนตรีและทางฝ่ายค้านเพื่อให้กำลังใจว่า ทางท้องถิ่นเห็นความสำคัญของการทำงานในระบบรัฐสภา ดังนั้นจึงชักชวนกันมาให้กำลังใจทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อให้ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด โดยคิดว่าการพูดคุยในระบบจะเป็นการแก้ไขปัญหาอีกทางหนึ่งตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย
ส่วนการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้ผู้บริหารท้องถิ่นนั่งในตำแหน่งได้ โดยไม่จำกัดวาระนั้นน่าจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาได้ในสัปดาห์หน้า และคาดว่าจะผ่านวาระที่ 2 และ 3 ได้ไม่ยาก หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่การพิจารณาของสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งเท่าที่ผู้บริหารท้องถิ่นได้พบกับพรรคการเมืองต่างๆ ทุกฝ่ายเห็นด้วยในการแก้ไข พรบ.ท้องถิ่นดังกล่าว