ตราด - รมว.คมนาคม เดินทางลงพื้นที่ จ.จันทบุรี แก้ปัญหาโลจิสติกส์และรับฟังปัญหาปชช. 2 ผู้ว่าฯ รับที่สนามบินตราด ไม่มีเสื้อแดง ขณะ ปัญหาการอภิปรายรัฐไม่หนักใจชี้แจงได้
เวลา 8.20 น. วันนี้( 14 มีนาคม 2552) ที่สนามบินตราด ต. ท่าโสม อ.เขาสมิง จ.ตราด นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางพร้อมคณะประกอบด้วย นายวิชาญ คุณากูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท นายสุพจน์ คำร้อง อธิบดีกรมทางหลวง เดินทางมาตรวจราชการที่ จังหวัดจันทบุรี มีนายแก่นเพชร ช่วงรังษี ผู้ว่าราชการ จ.ตราด และนายพูลศักดิ์ ประนุทณรพาล ผู้ว่าราชการ จ.จันทบุรี พร้อมด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.จันทบุรี พรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 3 คน ให้การต้อนรับโดยการเดินทางมาครั้งนี้ ใช้เครื่องบินของภาคเอกชนเดินทางมา ทั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พล.ต.ต.ปิยะพล โมกขะวรรธนะ ผู้บังคับการ ตำรวจภูธร จ.ตราด พ.ต.อ.หงษ์ มัชฌิมา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเขาสมิง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลใน เรื่องความเรียบร้อย เนื่องจากเกรงว่าจะมีกลุ่มเสื้อแดงเข้ามาประท้วง อย่างไรก็ตาม ระหว่างการเดินทางไม่มีกลุ่ม เสื้อแดงมาคอยปั่นป่วนหรือทำลายบรรยากาศการเดนิทางมาครั้งนี้
นายโสภณ กล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้เพื่อรับฟังปัญหาของประชาชนใน อ.สอยดาว เรื่องการก่อสร้าง ถนนในพื้นที่ อ.สอยดาว และมีการขยายพื้นที่ผิวจราจรที่มีปัญหาในเรื่องอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อย รวมทั้งการเข้ามาดู สภาพพื้นที่ในการที่จะเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมในพื้นที่ภาคตะวันออกเพื่อจัด ระบบโลจิสติกส์ขนส่งสินค้าเชื่อมโยง กับท่าเรือมาบตาพุดและ แหลมฉบัง เนื่องจากเห็นว่าพื้นที่ใน จ.จันทบุรีและตราด เป็นเส้นทางขนส่งสินค้ามาค้าขาย ในประเทศกัมพูชา มีมูลค่ามากกว่า 2 หมื่นล้าน/ปี
ซึ่งทางกระทรวงจะนำปัญหาเหล่านี้เข้าไปพิจารณาในการที่จะ จัดงบประมาณในการที่จะสร้างถนนเข้ามาเชื่อมโยงบริเวณจุดผ่านแดนถาวรของ จ.จันทบุรี และของ จ.ตราด ทั้งนี้ ทางกรมทางหลวงได้จัดงบประมาณกว่า 600 ล้านมาขยายช่องทางจราจรถนนสาย 318 (ตราด-บ้านหาดเล็ก) เป็น สี่เลนแต่ไม่ทั้งหมด เนื่องจากเส้นทางสายนี้จะเป็นจุดเชื่อมโยงทางการค้าระหว่าง 2 ประเทศได้เป็นอย่างดี
นายโสภณ กล่าวต่อว่า ในส่วนของถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ที่เคยมีการผลักดันให้มีการขยายช่อง ทางจราจรเป็น 4 ช่องทางจราจร ในยุคของรัฐบาลของไทยรักไทย แต่ยังไม่มีความคืบหน้า ก็จะมีการดำเนินการผลัก ดันให้เกิดขึ้น นอกจากนี้แล้วยังจะมีการพัฒนาโครงข่ายเส้นทางขนส่งสินค้าทางราง (รถไฟ) ที่ได้มีการศึกษาให้มี การก่อสร้างเชื่อมต่อจากท่าเรือแหลมฉบัง มาสู่ที่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด และผ่าน จ.จันทบุรี ซึ่งจะเป็นโครงข่ายขนส่ง สินค้าเชื่อมโยงกันทั้งภาคตะวันออก อย่างไรก็ตามทางกระทรวงจะนำแนวทางการศึกษาและการลงพื้นที่เพื่อรับฟัง ปัญหาของประชาชนไปดำเนินการในแผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายถนนของกรมทางหลวงต่อ ไป
สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยทั้ง 2 คน นั้น นายโสภณ กล่าวว่า ไม่รู้สึกหนักใจกับข้อมูล ที่จะใช้ในการอภิปราย และสามารถชี้แจงได้ทุกประเด็น โดยไม่ต้องจัดตั้งวอร์รูม แต่ได้มีการเตรียมข้อมูลเพื่อจะชี้แจง การอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านแล้ว มั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบกับพรรคและรัฐบาลเพราะข้อมูลที่ฝ่ายค้านได้ ยื่นมาล้วนเป็นเรื่องที่ประชาชนได้รับรู้ก่อนหน้านี้แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามถึงปัญหาการต่อต้านของกลุ่มเสื้อแดงใน จ.จันทบุรี ว่ารู้สึกกังวลหรือไม่ นายโสภณ กล่าวพร้อม มองหน้านายธวัชชัย อนามพงษ์ ส.ส.จันทบุรี ว่าถ้าหากมีกลุ่มเสื้อแดงมา ก็จะไม่ให้งบประมาณก่อสร้างถนน อย่างไร ก็ตามก็ไม่ได้รู้สึกหวั่นกลัวเนื่องจากตนเองและคณะเดินทางมาแก้ปัญหาให้กับ ประชาชนชาว จ.จันทบุรี ซึ่งเป็น ประโยชน์กับชาว จ.จันทบุรี ทุกคน
ส่วนกำหนดการเดินทางจะเดินทางไปรับฟังปัญหาของประชาชนที่ อ.สอยดาว และรับประทานอาหารร่วม กับชาวบ้าน จากนั้นเดินทางกลับทางรถยนต์ไปยัง จ.ระยอง และกรุงเทพในช่วงบ่าย...