นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางพร้อมคณะ ประกอบด้วย นายวิชาญ คุณากูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท นายสุพจน์ คำร้อง อธิบดีกรมทางหลวง เดินทางมาตรวจราชการที่ จ.จันทบุรี มีนายแก่นเพชร ช่วงรังษี ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด และนายพูลศักดิ์ ประนุทณรพาล ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วย ส.ส.จันทบุรี พรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 3 คน ให้การต้อนรับ
โดยการเดินทางมาครั้งนี้ พล.ต.ต.ปิยะพล โมกขะวรรธนะ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด พ.ต.อ.หงษ์ มัชฌิมา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเขาสมิง ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลในเรื่องความเรียบร้อย เนื่องจากเกรงว่าจะมีกลุ่มเสื้อแดงเข้ามาประท้วง อย่างไรก็ตาม ระหว่างการเดินทางไม่มีกลุ่มเสื้อแดงมาคอยปั่นป่วน หรือทำลายบรรยากาศการเดินทาง
นายโสภณ กล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้เพื่อรับฟังปัญหาของประชาชนใน อ.สอยดาว เรื่องการก่อสร้างถนนในพื้นที่ อ.สอยดาว และการขยายพื้นที่ผิวจราจรที่มีปัญหาในเรื่องอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อย รวมทั้งการเข้ามาดูสภาพพื้นที่ในการที่จะเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมในพื้นที่ภาคตะวันออก เพื่อจัดระบบลอจิสติกส์ขนส่งสินค้าเชื่อมโยงกับท่าเรือมาบตาพุดและแหลมฉบัง เนื่องจากเห็นว่าพื้นที่ใน จ.จันทบุรี และตราด เป็นเส้นทางขนส่งสินค้าไปค้าขายในประเทศกัมพูชา มีมูลค่ามากกว่า 2 หมื่นล้านต่อปี ซึ่งทางกระทรวงจะนำปัญหาเหล่านี้เข้าไปพิจารณาในการทำจัดงบประมาณ เพื่อสร้างถนนเข้ามาเชื่อมโยงบริเวณจุดผ่านแดนถาวรของ จ.จันทบุรี และของ จ.ตราด
ทั้งนี้ ทางกรมทางหลวงได้จัดงบประมาณกว่า 600 ล้านบาท มาขยายช่องทางจราจรถนนสาย 318 (ตราด-บ้านหาดเล็ก) เป็น 4 เลนแต่ไม่ทั้งหมด เนื่องจากเส้นทางสายนี้จะเป็นจุดเชื่อมโยงทางการค้าระหว่าง 2 ประเทศได้เป็นอย่างดี
โดยการเดินทางมาครั้งนี้ พล.ต.ต.ปิยะพล โมกขะวรรธนะ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด พ.ต.อ.หงษ์ มัชฌิมา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเขาสมิง ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลในเรื่องความเรียบร้อย เนื่องจากเกรงว่าจะมีกลุ่มเสื้อแดงเข้ามาประท้วง อย่างไรก็ตาม ระหว่างการเดินทางไม่มีกลุ่มเสื้อแดงมาคอยปั่นป่วน หรือทำลายบรรยากาศการเดินทาง
นายโสภณ กล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้เพื่อรับฟังปัญหาของประชาชนใน อ.สอยดาว เรื่องการก่อสร้างถนนในพื้นที่ อ.สอยดาว และการขยายพื้นที่ผิวจราจรที่มีปัญหาในเรื่องอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อย รวมทั้งการเข้ามาดูสภาพพื้นที่ในการที่จะเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมในพื้นที่ภาคตะวันออก เพื่อจัดระบบลอจิสติกส์ขนส่งสินค้าเชื่อมโยงกับท่าเรือมาบตาพุดและแหลมฉบัง เนื่องจากเห็นว่าพื้นที่ใน จ.จันทบุรี และตราด เป็นเส้นทางขนส่งสินค้าไปค้าขายในประเทศกัมพูชา มีมูลค่ามากกว่า 2 หมื่นล้านต่อปี ซึ่งทางกระทรวงจะนำปัญหาเหล่านี้เข้าไปพิจารณาในการทำจัดงบประมาณ เพื่อสร้างถนนเข้ามาเชื่อมโยงบริเวณจุดผ่านแดนถาวรของ จ.จันทบุรี และของ จ.ตราด
ทั้งนี้ ทางกรมทางหลวงได้จัดงบประมาณกว่า 600 ล้านบาท มาขยายช่องทางจราจรถนนสาย 318 (ตราด-บ้านหาดเล็ก) เป็น 4 เลนแต่ไม่ทั้งหมด เนื่องจากเส้นทางสายนี้จะเป็นจุดเชื่อมโยงทางการค้าระหว่าง 2 ประเทศได้เป็นอย่างดี