xs
xsm
sm
md
lg

จนท.ยึดลำไยอบแห้งเสื่อมคุณภาพจ่อปล่อยปลอมปนในตลาด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – จนท.ขยายผลบุกตรวจโกดังยึดลำไยอบแห้งค้างเก่าไม่ยอมบุบเปลือกตามเงื่อนไขสัญญาซื้อขายกับ อคส. หลังรวบรถสิบล้อ 3 คัน ได้ก่อนหน้าระหว่างเตรียมเคลื่อนย้าย เผยยังมีลำไยอบแห้งเสื่อมคุณภาพอีก 5 หมื่นตัน จ่อปล่อยเข้าปลอมปนในตลาด

เวลา 13.00 น.วันนี้ (12 มี.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี ประธานคณะอนุกรรมาธิการติดตามตรวจสอบกลั่นกรองเรื่องการร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา และ พ.ต.อ.ภานุเดช บุญเรือง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงข่าวการขยายผลกรณีลำไยอบแห้งจังหวัดเชียงใหม่และลำพูน หลังจากที่นำกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมหมายค้นเข้าตรวจสอบโกดังเก็บลำไยอบแห้ง 5 แห่ง ที่เป็นเป้าหมายในอำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน แล้วพบโกดัง 3 แห่ง ได้แก่ โกดังบ้านพระบาท ม.6 ต.มะกอก โกดังขันดีการเกษตร บ้านสันห้างเสือ ต.นครเจดีย์ และโกดังบ้านสะปุ๋ง ม.3 ต.ม่วงน้อย อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ได้แก่ มีลำไยอบแห้งไม่บุบเปลือกบรรจุกล่อง ผิดเงื่อนไขตามสัญญาซื้อขายขององค์การคลังสินค้า (อคส.) จำนวนทั้งสิ้น 1,300 ตัน มูลค่ากว่า 6.5 ล้านบาท โดยโกดังทั้งหมดเป็นของบริษัทธารเกษตร จำกัด มีนายณรงค์ศักดิ์ ติยะรัตนาชัย เป็นเจ้าของ และเป็นคู่สัญญาซื้อขายกับ อคส.จึงอายัดลำไยทั้งหมดมาตรวจสอบที่ สภ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่

รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การทำงานในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ขยายผลจากการจับกุมเมื่อวันที่ 10 มี.ค.2552 ซึ่งคณะอนุกรรมาธิการติดตามฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานตำรวภูธรสันป่าตอง ได้ร่วมกันจับกุมรถสิบล้อบรรทุกลำไยอบแห้งค้างสต็อกปี 2546/2547 ซึ่งผิดเงื่อนไขการซื้อขายกับรัฐเนื่องจากไม่ผ่านการบุบเปลือกจำนวน 3 คัน พร้อมคนขับจากโกดังบริษัทธารเกษตร จำกัด เลขที่ 200-200/3 ถ.เชียงใหม่-ฮอด ม.5 ต.มะขามหลวง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ตรงข้ามตลาดนัดทุ่งฟ้าบด และสามารถยึดลำไยอบแห้งไม่ผ่านการบุบเปลือกได้จำนวน 25.5 ตัน มูลค่ากว่า 1.8 ล้านบาท ซึ่งคนขับให้การว่ารับจ้างขนลำไยดังกล่าวไปส่งที่โกดังในพื้นที่อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน จึงขออนุมัติหมายค้นและเข้าตรวจสอบจนพบของกลางที่อายัดไว้

พ.ต.อ.ภานุเดช กล่าวด้วยว่า คนขับรถทั้ง 3 คน เจ้าหน้าที่ได้กันตัวเป็นพยาน นอกจากนี้ กำลังเตรียมที่จะแจ้งข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่กับคณะกรรมการที่ทำหน้าที่ควบคุมดูแลตรวจสอบลำไยตามโครงการซื้อขายกับ อคส.ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธาน โดยคณะอนุกรรมาธิการติดตามฯ จะตรวจสอบลำไยอบแห้งที่อายัดไว้อย่างละเอียดอีกครั้งว่าเข้าข่ายการทุจริตหรือไม่ โดยจะนำไปตรวจดีเอ็นเอเพื่อเทียบเคียงกับลำไยอบแห้งที่ตกค้างในปี 2546-2547 หากยืนยันตรงกัน ต้องแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทธารเกษตรจำกัด และผู้ร่วมกระทำผิดเพิ่มเติมอีก

ขณะที่ประธานคณะอนุกรรมาธิการติดตามตรวจสอบกลั่นกรองเรื่องการร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา กล่าวว่า ขณะนี้ได้เตรียมนำเรื่องเข้าสู่สภา เพื่อตั้งกระทู้เสนอให้รัฐบาลสั่งตรวจสอบถึงที่มาของลำไยที่อายัดไว้เป็นการเร่งด่วน เพราะสงสัยว่าจะเป็นขบวนการทุจริตนำลำไยอบแห้งที่ตกค้าง ซึ่งบริษัทเอกชนได้รับซื้อไปจากรัฐบาลในราคา 5 บาท แต่ไม่ยอมบุบเปลือกตามข้อตกลง และเก็บซ่อนไว้ก่อนทยอยขนย้ายออกมา เพื่อส่งไปขายในประเทศจีนในราคาสูงกว่ากิโลกรัมละ 40-50 บาท และมีแนวโน้มนำออกมาปลอมปนเพื่อจำหน่ายในตลาดอีกครั้ง โดยหากไม่รีบปราบปรามให้หมดไป เกรงว่าจะกลายเป็นวงจรอุบาทว์ที่ส่งผลกระทบทำให้รัฐต้องสูญเงินนับพันล้านบาท และส่งกระทบต่อผลผลิตลำไยอบแห้งรุ่นใหม่ ทั้งนี้คาดว่ามีลำไยอบแห้งเสื่อมคุณภาพและขึ้นราอีกประมาณ 50,000 ตัน ที่เตรียมนำออกมาปลอมปนในตลาด ซึ่งเป็นปริมาณที่ใกล้เคียงกับผลผลิตที่จะออกมาใหม่

รายงานข่าวแจ้งว่า ในช่วงระหว่างการแถลงข่าว นายเรวัติ ไวยกวี ซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทธารเกษตร จำกัด พร้อมคนงานที่ใช้ผ้าปิดบังใบหน้าจำนวน 15 คน เข้ามายังบริเวณ สภ.สันป่าตอง แล้วแจ้งความประสงค์จะขอนำรถบรรทุกลำไยคืน โดยระบุเหตุผลที่ บริษัทธารเกษตร จำกัด ไม่บุบเปลือกลำไยอบแห้งว่าเป็นเพราะกลัวจะเกิดเชื้อรา และบอกว่าลำไยอบแห้งที่ถูกจับกุมนั้นกำลังจะนำไปที่อำเภอป่าซาง เพื่อแกะเปลือกขายให้กับพ่อค้า ส่วนที่เป็นเชื้อราจะนำไปทำปุ๋ย
กำลังโหลดความคิดเห็น