ชาวลำพูน ทำพิธีบายศรีสืบชะตา "มาร์ค" เจอพระทัก ดวงแข็งสูสีคู่ต่อสู้ แต่ต้องกลับมาแก้ดวงหลังเลือกตั้ง เพราะฝ่ายตรงข้ามมีดวงพิฆาตเหนือกว่า ทำนายกฯหน้าเสีย เผยเปลี่ยนแผนลงหาเสียง อ.ฮอด เชียงใหม่ ไปที่อ.แม่ริม หลังแกนนำแก๊งแดงในพื้นที่ขู่ชาวบ้านห้ามไปฟัง "อภิสิทธิ์" ปราศรัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการลงพื้นที่หาเสียงของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เช้าวันนี้ (2 มิ.ย.) หลังจากหาเสียงในตลาดหนองเงือก อ.ป่าซาง จ.ลำพูน นานครึ่งชั่วโมง ได้เดินกลับวัดเพื่อร่วมกับชาวบ้านตักบาตรอาหารแห้ง ซึ่งทางวัดได้นิมนต์เจ้าอาวาส หรือรองเจ้าอาวาสจากวัดใน ต.แม่แรง รวม 17 รูป และเณร 2 รูป มารับบาตร
จากนั้นขึ้นไปยังพระอุโบสถเพื่อทำพิธีบายศรีสืบชะตา โดยมีชื่อนายอภิสิทธิ์ นายสาทิตย์ วงศ์หนอเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตร นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมว.อุตสาหกรรม รองหัวหน้าพรรคที่ดูแลพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมด้วย 2 ผู้สมัครส.ส.จังหวัดลำพูน คือ นายสมาน ชมพูเทพ ผู้สมัครส.ส.เขต 1 ลำพูน และนายขยัน วิพรหมชัย ผู้สมัครส.ส. เขต 2 ลำพูน ที่เขียนส่งให้กับพระครูไกรลาศ รัตนวรรโณ พระเจ้าพิธี เพื่อใช้ในการท่องบทสวดทำพิธีเท่านั้น ซึ่งนายอภิสิทธิ์เข้าร่วมพิธีอย่างตั้งใจ ทั้งนี้ยังมีผู้ว่าราชการจังหวัด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ข้าราชการ และประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างล้นหลาม จนคนนล้นออกนอกอุโบสถและออกไปนอกบริเวณวัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเริ่มพิธีสืบชะตาบายศรีสู่ขวัญ นายอภิสิทธิ์ ได้จุดเทียนบูชาพระรัตนตรัย ตามที่ทางวัดหนองเงือกได้จัดเทียนมงคล 10 เล่ม ซึ่งตรงกับหมายเลขของพรรคประชาธิปัตย์ โดยสู่พิธีบายศรีสู่ขวัญใช้เวลาครึ่งชั่วโมงจึงเสร็จพิธี จากนั้นพระภิกษุได้มอบเหรียญรูปเหมือนพระครูญาณะ อดีตเจ้าอาวาสวัดดังกล่าว และกล่าวทักดวงชะตาของนายอภิสิทธิ์ว่านายอภิสิทธิ์ดวงแข็ง ในช่วงที่มีการต่อสู้ดวงจะสูสีกับคู่แข่ง ดังนั้นนายอภิสิทธิ์จึงต้องกลับมาแก้ดวง แต่นายอภิสิทธิ์ ตอบกลับไปว่า ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาเพราะติดภารกิจเลือกตั้ง แต่พระรูปดังกล่าวได้ยืนยันว่า หลังการเลือกตั้ง นายอภิสิทธิ์ต้องกลับมาแก้ดวงชะตา เพราะฝ่ายตรงข้ามมีดวงพิฆาตเหนือกว่ามาก ทำเอานายกรัฐมนตรี มีสีหน้าเคร่งเครียด แต่ยังฝืนยิ้มเจื่อนๆ ออกมา
จากนั้น 08.00 น. นายอภิสิทธิ์ ได้ปราศรัยที่ด้านหน้าอุโบสถทันที โดยมีประชาชนนั่งฟังจำนวนมาก โดยแนะนำตัวผู้สมัครให้ชาว จ.ลำพูน หลังจากปราศรัยหน้าพระอุโบสถ นายอภิสิทธิ์ และคณะได้นั่งรับประทานอาหารเช้าที่ข้างพระอุโบสถ ที่มีการตั้งโต๊ะเตรียมไว้ มีอาหารเป็นข้าวต้มใส่หมูสับ กุ้งแห้ง และ ปลาหมึก นอกจากนี้ยังมีแกงฮังเล ข้าวเหนียว และ ขนมครก โดย นายอภิสิทธิ์ เลือกกินแต่ ข้าวเหนียวจิ้มแต่แกงฮังเลอย่างเอร็ดอร่อย ซึ่งขณะที่นั่งรับประทานอยู่ ก็มีชาวบ้านมายืนอยู่ด้านหลังเพื่อถ่ายรูปด้วยเป็นระยะๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังรับประทานอาหารเสร็จ นายอภิสิทธิ์ พร้อมคณะได้เดินทางออกจากวัดเพื่อไปเยี่ยมชม กลุ่มทอผ้า บ้านหนองเงือก ที่อยู่ในหมู่บ้านไม่ไกลจากวัดมากนัก เมื่อไปถึงนายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวทักทายและเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ ดูกระบวนการผลิตที่มีการปั่นฝ้ายและทอผ้า ซึ่งนายอภิสิทธิ์ ได้นั่งปั่นฝ้่ายให้สื่อมวลชนได้ถ่ายรูปตามคำขอร้อง ทั้งนี้การเยี่ยมชมไว้เวลาไม่นาน
ทั้งนี้ฝ้ายที่นายอภิสิทธิ์ปั่นนั้น เป็นฝ้ายสีชมพู ทำให้ผู้สื่อข่าวแซวว่าสีชมพูเป็นสีแห่งความปรองดองของพรรคชาติไทยพัฒนา การปั่นฝ้ายสีนี้เป็นการปั่นเพื่อความปรองดองหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ยิ้มและกล่าวว่า "สีน่ะใช่"
ต่อมานายอภิสิทธิ์แวะบ้านหลังบ้านของมารดา พระราชจริยาภรณ์ (สิงห์ไชย มูลชีพ) เจ้าอาวาสวัดหนองเงือก อายุ 93 ปี ซึ่งนั่งอยู่บนรถเข็น ซึ่งมารดาของเจ้าอาวาสได้ผูกข้อมือและอวยพรให้ นายอภิสิทธิ์ได้กลับมาเป็นนายกอีกหนึ่งสมัย จากนั้น ได้เดินทางไปยัง อ.แม่อาว จังหวัดลำพูนเพื่อหาเสียง ต่อไป
หลังจากนั้น นายอภิสิทธิ์ ได้เดินทางไปหาเสียง ที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนกำหนดการจากเดิมที่จะลงพื้นที่ จ.ฮอด ซึ่งการเแจ้งเปลี่ยนแปลงนี้ได้แจ้งให้ทราบเมื่อช่วงคืนที่ผ่านมาโดยไม่ได้ระบุเหตุผล ทั้งนี้คาดการณ์กันว่าที่ต้องเปลี่ยนแปลงเนื่องจากไม่สามารถควบคุมมวลชนได้ เนื่องจากได้รับรายงานว่าแกนนำคนเสื้อแดงในพื้นที่ อ.ฮอด โทรศัพท์ข่มขู่ชาวบ้านไม่ให้ไปฟังการปราศรัยของนายอภิสิทธิ์ ไม่เช่นนั้นจะได้รับอันตราย ทีมงานจึงเปลี่ยนแผนไปหาเสียงที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่แทน