xs
xsm
sm
md
lg

ตร.เชียงใหม่ออกหมายจับเสื้อแดงถ่อยทำร้ายผู้หญิง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เหยื่อเสื้อแดงถ่อยเข้าแจ้งความดำเนินคดี หลังโดนทำร้ายร่างกาย ยันเอาเรื่องถึงที่สุด ทำร้ายไม่เว้นแม้กระทั่งผู้หญิง ด้าน มช.เตรียมแจ้งความเอาผิดทำลายทรัพย์สิน-บุกรุกสถานที่ ด้านตร.เชียงใหม่เตรียมออกหมายจับวันนี้ ย้ำ ตร.ใช้ปืนยิงยางรถเพื่อป้องกันตัว ด้านรองผู้ว่าฯ ชี้ชัดทำผิดกฎหมาย พร้อมสั่งดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด “มาร์ค” จี้ตำรวจคุมแก๊งเสื้อแดงเข้มงวด ห้ามล้ำเส้นกฎหมาย เตือนคดีเก่ายังไม่จบอย่าใช้ความรุนแรง
        วานนี้(25 ม.ค.) นางเพ็ญสุวรรณ นาคะปรีชา ผู้อำนวยการสำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และอุปนายกสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.อัครเดช อินชัย ร้อยเวร สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยมี นายไพโรจน์ แสงภู่วงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และ พล.ต.ต.สุเทพ เดชรักษา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เข้าร่วมรับฟังด้วย
นางเพ็ญสุวรรณ กล่าวว่า การเดินทางเข้าแจ้งความในวันนี้ เพื่อให้ดำเนินกับบุคคลที่ทำร้ายร่างกายตนเอง โดยใช้มือตบเข้าใบหน้าบริเวณด้านซ้ายอย่างรุนแรง ในระหว่างเจรจากับกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ที่บุกรุกเข้าหอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 24 ม.ค.
ทั้งนี้ ตนเองในฐานะอุปนายกสมาคมศิษย์เก่าได้เข้าไปเจรจากลุ่มเสื้อแดง ไม่ให้บุกรุกเข้าไปในหอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เนื่องจากภายในงานมีคณะอาจารย์ ศิษย์เก่า และนักศึกษากำลังทำพิธีไหว้ครู เพื่อแสดงความเคารพ แต่ในระหว่างนั้น มีชายวัยกลางคนสวมเสื้อสีแดง โพกผ้าสีแดง และใส่หมวกไหมพรมปิดใบหน้า เดินเข้ามาใช้ฝ่ามือที่คลุมด้วยผ้า ซึ่งคาดว่า ด้านในน่าจะมีของแข็งอยู่ด้วยทำร้ายก่อนหนีเข้ากลุ่มไป
        จากนั้นอาจารย์ที่อยู่ใกล้ได้พาตนเองเข้าไปด้านในงาน ก่อนจะพาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อเอกซเรย์ เนื่องจากมีโรคภาวะเสี่ยงกระดูกด้วย ซึ่งผลที่ออกมาพบว่าไม่รุนแรงมากนัก แต่ได้รับการกระทบกระเทือนและฟกช้ำ
“ตอนแรกตั้งใจจะไม่เอาความ แต่เพื่อเป็นการให้บทเรียนกับบุคคล และกลุ่มคนที่ละเมิดสิทธิผู้อื่นได้สำนึก และให้สังคมรับรู้ว่า ประเทศนี้กำลังเกิดอะไรขึ้น ซึ่งนอกจากจะเจ็บที่ร่างกายแล้วยังเจ็บที่ใจด้วย และไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับตน โดยเฉพาะผู้ที่กระทำกับตนเองเป็นผู้ชายด้วยแล้ว แต่มาทำกับผู้หญิงแบบนี้ได้อย่างไร” นางเพ็ญสุวรรณ กล่าว
ด้าน ผศ.ดร.พงษ์อินทร์ รักอริยะธรรม รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการสำรวจความเสียหาย พบว่า ประตูทางเข้าพัง เนื่องจากถูกกลุ่มผู้ชุมนุมทำลาย และรถตู้โดนของแหลมมีคมแทงยางเสียหายทั้งหมด ขณะที่รถคันอื่นๆ ในบริเวณถูกปล่อยยางลมออกทั้งหมด
ทั้งนี้ จากการพูดคุยกับผู้บริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คาดว่า ในวันนี้ (26 ม.ค.) จะเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกลุ่มกลุ่มคนที่ทำลายทรัพย์สินทั้งหมด และขอยืนยันว่า มหาวิทยาลัยเป็นศูนย์รวมของคนทุกกลุ่มและทุกฝ่าย ซึ่งไม่มีการเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตามที่กลุ่มผู้ชุมนุมกล่าวหาแต่อย่างใด
วันเดียวกัน พล.ต.ต.สุเทพ เดชรักษา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตามที่กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ได้ทำการบุกรุกหอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทำลายทรัพย์สิน และทำร้ายร่างกายประชาชนนั้น ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินตามกฎหมายต่อไป
โดยกรณี นางเพ็ญสุวรรณ นาคะปรีชา ผู้อำนวยการสำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ถูกทำร้ายบริเวณใบหน้า ได้กำชับให้พนักงานสอบสวนเร่งสอบสวนเพื่อหาตำหนิ รูปพรรณสัณฐาน ของผู้ต้องหา ซึ่งจากการให้ปากคำของผู้เสียหาย คาดว่า ในวันนี้ (26 ม.ค.) น่าจะออกหมายจับผู้ต้องหาได้
ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ปืนยิงยางรถของกลุ่มผู้ชุมนุม จากการสอบสวนผู้ที่ขับรถพุ่งเข้าหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่า ไม่ใช่กลุ่มคนเสื้อแดง เพียงแค่เข้าใจผิดไม่ทราบว่ามีการชุมนุม เพียงต้องการผ่านถนนเส้นดังกล่าวเท่านั้น ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ปืนยิง เบื้องต้นเป็นการใช้เพื่อป้องกันตัว แต่จะมีการตั้งกรรมการสอบสวนอีกครั้งหนึ่งเพื่อความโปร่งใส
“เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำตามหน้าที่ แต่กลุ่มผู้ชุมนุมมีมาก และแกนนำไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ขอยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้ปล่อยปละละเลยให้กลุ่มผู้ชุมนุมบุกรุกสถานที่และทำร้ายร่างกายดังกล่าว” พล.ต.ต.สุเทพ กล่าว
       
        ด้าน นายไพโรจน์ แสงภู่วงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า การชุมนุมสามารถกระทำได้ แต่ต้องเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวด เพื่อให้เกิดซ้ำอีก
นอกจากนี้ จะเร่งทำความเข้าใจกับแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง เพื่อให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าวเพราะนอกจากจะผิดกฎหมายแล้วยังสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนทั่วไปด้วย ทั้งในส่วนการทำร้ายร่างกาย การปิดถนนทำให้การจราจรติดขัด รวมทั้งเร่งให้ฝ่ายปกครองจัดการกับวิทยุชุมชน 2-3 แห่งที่ปลุกระดม โดยให้ข้อมูลข่าวสารที่ผิดๆ และชักชวนประชาชนให้เข้าร่วมชุมนุมด้วย

"มาร์ค"จี้ตร.เข้มงวดม๊อบเสื้อแดง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงไปปิดล้อมนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ จ.เชียงใหม่ว่า เราจะดูแลไม่ให้เกิดความรุนแรง แต่ก็อยากให้ทุกฝ่ายใช้สิทธิ์อยู่ในขอบเขต โดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลไม่ให้เกิดความรุนแรงอยู่หัว และหากเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่หละหลวมเกินไป ก็ต้องกำชับไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการปะทะกันเหมือนในอดีต และยังคงเป็นคดีความกันอยู่ สุดท้ายแล้ว ปัญหาก็ตกอยู่กับเจ้าหน้าที่เอง
"ที่ผ่านมา ตนก็แสดงความคิดเห็นมาโดยตลอดว่า ทุกคนควรจะมีสิทธิ์จะไปปฏิบัติภารกิจได้ การไปชุมนุมแสดงออกสามารถทำได้ แต่อย่าไปถึงขั้นทำให้เกิดความกระทบกระเทือนกับการทำหน้าที่ของแต่ละฝ่าย เช่น เขาจัดงานอยู่ ก็สามารถไปชุมนุมด้านหน้า จะแสดงความคิดเห็น ถือป้าน ปราศรัยก็ทำได้ แต่อย่าถึงขั้นไปบุกในงานเขา อย่างนี้มันไม่ได้"นายอภิสิทธิ์กล่าวและชี้ว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมา โดยเฉพาะจังหวัดลำพูน ก็สามารถชนะการเลือกตั้ง ฉะนั้นแสดงว่า มีประชาชนที่สนับสนุนรัฐบาลอยู่ไม่น้อย จะเรียกว่าเป็นเสียงข้างมากก็ได้ ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนจะมีตลอดเวลา แต่เราจะลดเงื่อนไขที่จะเกิดความขัดแย้ง ถ้าเราดำเนินการต่างๆ พูดคุยกับประชาชนอย่างตรงไปตรงมา คิดว่าจะดีที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น