ตาก - ผู้ว่าฯตาก ขานรับแผนดัน “แม่สอด” ขึ้นเป็น “ท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ” ยันเงื่อนไขพร้อมทุกด้าน ทั้งยอดการค้าทะลุ 30,000 ล้านต่อปี เป็นประตูเชื่อมพม่า รับเส้นทางสายเศรษฐกิจ East-West Economic Corridor
นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวว่า เทศบาลเมืองแม่สอด เป็นท้องถิ่นที่มีศักยภาพ ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม การเจริญเติบโตของเมืองทั้งทางภาคพาณิชย์และอุตสาหกรรม เป็นเมืองหน้าด่านการค้าชายแดนไทย-พม่า ที่มีลักษณะเมืองพิเศษชายแดน ทำให้มีความเหมาะสมที่จะปรับรูปแบบของการปกครองท้องถิ่นของเทศบาลเมืองแม่สอดให้เป็นเขตการปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ “เมืองแม่สอด”
“ผมเห็นด้วยกับการผลักดันเทศบาลเมืองแม่สอด ให้เป็นท้องถิ่นพิเศษ และจากการที่นายเทอด เกียรติ ชินสรนันท์ นายกเทศมนตรีเมืองแม่สอด ได้ทำหนังสือถึงผมเพื่อให้ขอให้ทางจังหวัดสนับสนุนในเรื่องนี้ ผมได้รับเรื่องและจะนำเสนอเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายท้องถิ่นพิเศษต่อไป” ผวจ.ตาก กล่าว
นายเทอดเกียรติ ชินสรนันท์ นายกเทศมนตรีเมืองแม่สอด กล่าวว่า นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะ ส.ส.ตาก เป็นนักการเมืองอีกคนหนึ่งที่เห็นด้วยกับการผลักดันเมืองแม่สอด เป็น ท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ เพราะเป็นนโยบายหนึ่งของรัฐบาลที่จะส่งเสริมรูปแบบท้องถิ่นพิเศษในเมืองที่มีความพร้อมและเหมาะสม
สำหรับเมืองแม่สอดนั้นถือว่ามีความพร้อมสูงในการยกฐานะเป็นท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ที่เข้าหลักเกณฑ์เมืองชายแดนที่มีศักยภาพทางการค้าชายแดนไทย-พม่า ที่มีมูลค่าการค้าปีละกว่า 30,000 ล้านบาท และเป็นประตูหน้าด่านเส้นทางสายเศรษฐกิจอีสต์เวสอิโคโนมิค คอริดอร์ แม่สอด-มุกดาหาร-ดานัง
รายงานข่าวแจ้งว่า ล่าสุดนายถวิล ไพรสณฑ์ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สภาผู้แทนราษฎร ได้มีการประชุมหารือเพื่อกำหนดกรอบของการพัฒนาศักยภาพของการปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีผู้บริหารท้องถิ่นจากสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย (ส.ท.ท.) นายกเทศมนตรีจากเมืองสำคัญๆจากหลายท้องถิ่นกว่า 20 คน เข้าร่วมประชุมหารือเช่น นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่-หาดใหญ่-ขอนแก่น-นครราชสีมา-นายกเทศมนตรีเมืองแม่สอด-เชียงราย-แหลมฉบัง-เกาะสมุย-เบตง ฯลฯ ซึ่งได้ข้อสรุปเบื้องต้นจะมีการเสนอกฎหมาย 2 รูปแบบต่อรัฐบาล คือ 1.การผลักดันเขตปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ และ 2.การผลักดัน “มหานคร”
โดยรูปแบบท้องถิ่นพิเศษก็จะแยกเป็นท้องถิ่นที่มีลักษณะพิเศษและหลักเกณฑ์รวมทั้งมีศักยภาพใน 3 ลักษณะ คือ 1.เมืองที่อยู่ชายแดนและเป็นเมืองส่งออก-นำเข้าสินค้าที่สำคัญ เช่นเมืองแม่สอด ที่มีการค้าชายแดนไทย-พม่า 2.เมืองท่องเที่ยว เช่น เกาะสมุยและหัวหิน 3.เมืองที่เป็นท่าเรือและท่าอุตสาหกรรม เช่นแหลมฉบังและมาบตาพุด ฯลฯ เป็นต้น
ส่วนอีกแนวทางหนึ่งคือ ส่งเสริมท้องถิ่นที่จะเป็นท้องถิ่นขนาดใหญ่ พร้อมจะเป็น “มหานคร” เช่น เชียงใหม่-หาดใหญ่-ขอนแก่น-นครราชสีมา ฯล โดยให้ผู้บริหารท้องถิ่นได้ไปทำประชาพิจารณ์และศึกษา สำรวจและหาข้อมูล รวมทั้งร่างกฎหมายเพื่อเสนอต่อนายถวิล ไพรสณฑ์ ซึ่งจะรับหน้าที่ประสานรัฐบาลและนำเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯต่อไป