ตาก - แรงงานต่างด้าว กะเหรี่ยง-พม่า ทยอยกลับบ้านหลังตกงานจากพิษเศรษฐกิจ ทำยอดจับกุมคนต่างด้าวผ่านชายแดนแม่สอดพุ่งขึ้นเป็นไม่ต่ำกว่า 300-400 คนต่อวัน ขณะที่ขบวนการค้าคนยังตั้งหน้าขูดรีดกันไม่หยุด ตั้งหน้าบริการส่งแรงงานเถื่อนกลับแลกค่านายหน้าตั้งแต่ 4,500-6,000 บาท/หัว
รายงานข่าวจากบริเวณแนวชายแดนไทย-พม่า ด้านฝั่งตะวันตก อ.แม่สอด จังหวัดตาก แจ้งว่า ระยะนี้แรงงานต่างด้าวกะเหรี่ยง-พม่า ที่เคยเดินทางเข้ามาทำงานในประเทศไทย เดินทางกลับประเทศมากยิ่งขึ้นภายหลังตกงานเนื่องจากพิษเศรษฐกิจที่ตกต่ำไปทั่วโลก โรงงานหลายแห่งต้องปิดตัวลง แรงงานถูกเลิกจ้างงาน ทำให้แรงงานกะเหรี่ยงต้องเดินทางกลับประเทศและบางครั้งถูกจับ จะเห็นได้ว่าระหว่างเดินทางกลับมายังชายแดนนั้นเจ้าหน้าที่ไทยจะมีการตั้งด่านสกัดจับกุมในแต่ละวันเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าวันละ 300-400 คน หรือบางวันมากกว่านั้น
แหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง จังหวัดตาก ที่ติดต่อกับรัฐกะเหรี่ยง ประเทศพม่า กล่าวว่า มีแรงงานกะเหรี่ยงเดินทางกลับบ้านมากกว่า 200-300 คนต่อวัน หลายคนเดินทางกลับโดยใช้บริการจากนายหน้าต้องจ่ายเงินตามระยะทาง เช่น หากมาจากภาคใต้หรือชายแดนมาเลเซีย ที่เคยไปทำสวนยางจะต้องจ่ายเงินให้กับนายหน้าที่ส่งเดินทางกลับบ้านคนละไม่น้อยกว่า 5,000-6,000 บาท หากเดินทางมาจากภาคกลาง-กรุงเทพฯ หรือเขตปริมณฑล จะต้องจ่ายเงินมากกว่า 4,500 บาท
นายกองจ่อ แรงงานกะเหรี่ยงที่เคยทำงานในสวนยางพารา กล่าวว่า นายจ้างคนไทยไม่อยากจ้างเราไปทำงานเพราะราคายางตก ค่าจ้างก็ลดลงไปด้วย ประกอบกับขณะนี้มีมาเฟียที่เป็นพวกเดียวกันได้ตั้งแก็งค์ขึ้นมาขูดรีดเงินค่าคุ้มครองจากกลุ่มแรงงานอีกด้วย
นายส่วยทอ แรงงานที่เคยทำงานในกรุงเทพฯ กล่าวว่า แรงงานต่างด้าว กะเหรี่ยง-พม่า นอกจากจะถูกเลือกปฏิบัติจากคนไทยในพื้นที่แล้ว และยังถูกมองในด้านลบ เมื่อเกิดปัญหาอาชญากรรมก็จะถูกสังคมไทยกล่าวหาว่าเป็นพวกแรงงานต่างด้าวก่อเหตุ ประกอบกับรัฐบาลไทยเองก็แต่มีนโยบายที่เอื้อประโยชน์แก่คนไทยเพียงอย่างเดียว ในขณะที่แรงงานต่างด้าวถูกละทิ้งและถูกผลักดันออกจากประเทศ
อย่างไรก็ตาม ขณะที่แรงงานส่วนหนึ่งจะทยอยเดินทางกลับพม่า ในขณะเดียวกันก็พบว่ามีชาวบ้านเดินทางจากพม่าข้ามมายังเขตไทยเพื่อมาหางานทำเช่นเดียวกัน เนื่องจากสถานการณ์ในพม่ายังคงเลวร้าย ไม่ปกติ ชาวบ้านไม่มีงานทำและถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน