เชียงราย- ตำรวจท่องเที่ยวเชียงรายตั้งด่านตรวจค้นรถยนต์เป้าหมายที่คาดว่ากลุ่มขบวนการจะใช้ในการลำเลียงเด็กชายและเด็กหญิง ชนเผ่ากะเหรี่ยงคอยาวจากชายแดนแม่ฮ่องสอนผ่านเข้ามาในพื้นที่เชียงราย แต่ยังไม่พบวี่แวว พร้อมนำแฟ้มประวัติเด็กชนเผ่ากะเหรี่ยงคอยาว 22 รายที่เคยเข้ามาประวัติมาตรวจสอบกับจำนวนกะเหรี่ยงคอยาวในพื้นที่
พ.ต.ต.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ขณะนี้มีออเดอร์สั่งซื้อตัวชนเผ่ากะเหรี่ยงคอยาวจากพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อนำไปประกอบธุรกิจแสดงโชว์สร้างรายได้ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งที่มีกลุ่มนายทุนรายใหญ่เข้าดำเนินการ ตั้งอยู่ทางไปอำเภอสัตหีบ และพัทยา จังหวัดชลบุรี ซึ่งขบวนการดังกล่าวอาจจะมีความเชื่อมโยงในการลักพาตัวเด็กชนเผ่ากะเหรี่ยงคอยาว ทั้ง 11 คนนี้ได้ จึงทำการประสานงานไปยังตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี ร่วมตรวจสอบทางลับอีกทาง ส่วนเด็กเป้าหมายทั้งหมด คาดว่ายังอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ เนื่องจากเป็นเด็กที่มีลักษณะพิเศษ การตบตาเพื่อขนย้ายทำได้ลำบาก เป็นที่สังเกตได้ง่าย
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงรายแจ้งว่า ช่วงนี้ พ.ต.ต.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย จะนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจท่องเที่ยว ร่วมตั้งด่านกับตำรวจ สภ.แม่ลาว ที่มี พ.ต.ท.ภิรมย์ สุทา สวป.ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมด่านตรวจ ทำการตรวจค้นรถยนต์เป้าหมาย ที่คาดว่ากลุ่มขบวนการจะใช้ในการลำเลียงเด็กชายและเด็กหญิง ชนเผ่ากะเหรี่ยงคอยาว 11 คน จากชายแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน ผ่านเข้ามาในพื้นที่จังหวัดเชียงราย มีการตรวจรถยนต์ที่มีการติดตั้งผ้าใบคลุมท้ายรถ และรถบรรทุกโดยละเอียด แต่ยังไม่พบวี่แวว พร้อมได้ประสานไปยังด่านตรวจที่มีรอยต่อกับจังหวัดข้างเคียง เฝ้าตรวจสอบ
ขณะที่กำลังตำรวจท่องเที่ยวที่มี ด.ต.จินดา มณีทิพย์ เป็นหัวหน้าชุด ได้นำแฟ้มประวัติเด็กชนเผ่ากะเหรี่ยงคอยาว 22 ราย ที่เคยเข้ามาประวัติกับสถานีตำรวจท่องเที่ยวเชียงรายไว้ก่อนหน้านี้เข้าตรวจสอบเด็กชนเผ่ากะเหรี่ยงที่อาศัยอยู่ในศูนย์เรียนรู้เชิงเกษตร ศูนย์รวมหมู่บ้าน 5 ชนเผ่าอาข่า ลาหู่ ปะด่อง ปะหล่อง กะเหรี่ยง ตำบลนางแล อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบว่าเด็กกะเหรี่ยงคอยาวกำลังนั่งเรียนหนังสืออยู่ในศูนย์ดังกล่าวจึงเรียกมาตรวจสอบประวัติเรียงตามบุคคล พบว่าเด็กชนเผ่าคอยาวยังอยู่ครบ ไม่มีการสวมรอยนำมาเพิ่มหรือมี 11 กะเหรี่ยงที่หายตัวไปมาเพิ่มเติมทั้งสิ้น
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ก่อนหน้านี้สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ (UNHCR) ได้ออกมาระบุว่า ที่จังหวัดเชียงรายเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ ที่มีการลักลอบนำชาวกะเหรี่ยงคอยาว มาจัดแสดงในลักษณะเป็นสวนสัตว์มนุษย์ อันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน และเตรียมบอยคอตการท่องเที่ยวประเทศไทย หากไม่มีการดำเนินการ ซึ่งทางตำรวจท่องเที่ยวเชียงราย จึงได้เข้าตรวจสอบพร้อมทำทะเบียนประวัติเด็กชนเผ่าคอนยาวเอาไว้ทุกคน ลบข้อครหาของต่างชาติลงไป
พ.ต.ต.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ขณะนี้มีออเดอร์สั่งซื้อตัวชนเผ่ากะเหรี่ยงคอยาวจากพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อนำไปประกอบธุรกิจแสดงโชว์สร้างรายได้ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งที่มีกลุ่มนายทุนรายใหญ่เข้าดำเนินการ ตั้งอยู่ทางไปอำเภอสัตหีบ และพัทยา จังหวัดชลบุรี ซึ่งขบวนการดังกล่าวอาจจะมีความเชื่อมโยงในการลักพาตัวเด็กชนเผ่ากะเหรี่ยงคอยาว ทั้ง 11 คนนี้ได้ จึงทำการประสานงานไปยังตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี ร่วมตรวจสอบทางลับอีกทาง ส่วนเด็กเป้าหมายทั้งหมด คาดว่ายังอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ เนื่องจากเป็นเด็กที่มีลักษณะพิเศษ การตบตาเพื่อขนย้ายทำได้ลำบาก เป็นที่สังเกตได้ง่าย
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงรายแจ้งว่า ช่วงนี้ พ.ต.ต.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย จะนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจท่องเที่ยว ร่วมตั้งด่านกับตำรวจ สภ.แม่ลาว ที่มี พ.ต.ท.ภิรมย์ สุทา สวป.ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมด่านตรวจ ทำการตรวจค้นรถยนต์เป้าหมาย ที่คาดว่ากลุ่มขบวนการจะใช้ในการลำเลียงเด็กชายและเด็กหญิง ชนเผ่ากะเหรี่ยงคอยาว 11 คน จากชายแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน ผ่านเข้ามาในพื้นที่จังหวัดเชียงราย มีการตรวจรถยนต์ที่มีการติดตั้งผ้าใบคลุมท้ายรถ และรถบรรทุกโดยละเอียด แต่ยังไม่พบวี่แวว พร้อมได้ประสานไปยังด่านตรวจที่มีรอยต่อกับจังหวัดข้างเคียง เฝ้าตรวจสอบ
ขณะที่กำลังตำรวจท่องเที่ยวที่มี ด.ต.จินดา มณีทิพย์ เป็นหัวหน้าชุด ได้นำแฟ้มประวัติเด็กชนเผ่ากะเหรี่ยงคอยาว 22 ราย ที่เคยเข้ามาประวัติกับสถานีตำรวจท่องเที่ยวเชียงรายไว้ก่อนหน้านี้เข้าตรวจสอบเด็กชนเผ่ากะเหรี่ยงที่อาศัยอยู่ในศูนย์เรียนรู้เชิงเกษตร ศูนย์รวมหมู่บ้าน 5 ชนเผ่าอาข่า ลาหู่ ปะด่อง ปะหล่อง กะเหรี่ยง ตำบลนางแล อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบว่าเด็กกะเหรี่ยงคอยาวกำลังนั่งเรียนหนังสืออยู่ในศูนย์ดังกล่าวจึงเรียกมาตรวจสอบประวัติเรียงตามบุคคล พบว่าเด็กชนเผ่าคอยาวยังอยู่ครบ ไม่มีการสวมรอยนำมาเพิ่มหรือมี 11 กะเหรี่ยงที่หายตัวไปมาเพิ่มเติมทั้งสิ้น
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ก่อนหน้านี้สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ (UNHCR) ได้ออกมาระบุว่า ที่จังหวัดเชียงรายเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ ที่มีการลักลอบนำชาวกะเหรี่ยงคอยาว มาจัดแสดงในลักษณะเป็นสวนสัตว์มนุษย์ อันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน และเตรียมบอยคอตการท่องเที่ยวประเทศไทย หากไม่มีการดำเนินการ ซึ่งทางตำรวจท่องเที่ยวเชียงราย จึงได้เข้าตรวจสอบพร้อมทำทะเบียนประวัติเด็กชนเผ่าคอนยาวเอาไว้ทุกคน ลบข้อครหาของต่างชาติลงไป